นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ นายนวรัตน์ ชิโนมี ผู้อำนวยการสมาคมสร้างคุณค่าในประเทศไทย นายฮิโรฟูมิ โคเซกิ เลขาธิการสถาบันปรัชญาตะวันออก และศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภามหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก แถลงข่าวความร่วมมือจัดนิทรรศการ "สัทธรรมปุณฑริกสูตร สารแห่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว"
นิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตรฯ นี้จัดทำขึ้นโดยสถาบันปรัชญาตะวันออก (The Institute of Oriental Philosophy) โดยความร่วมมือกับสมาคมโซคาสากล (Soka Gakkai International) เพื่อเผยแพร่แนวคิดแห่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวตามที่ปรากฏอยู่ในพระสูตรทางพุทธศาสนา โดยนิทรรศการนี้จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 และได้จัดแสดงมาแล้วกว่า 28 แห่ง ใน 14 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ได้แก่ ฮ่องกง อินเดีย มาเก๊า สเปน เนปาล บราซิล ศรีลังกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย อาร์เจนตินา เกาหลีใต้ เปรู
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานการแถลงข่าว กล่าวถึงเป้าหมายของกระทรวงวัฒนธรรมในการร่วมจัดนิทรรศการนี้ว่า "กระทรวงวัฒนธรรม เป็นองค์กรหลักของรัฐที่มีวิสัยทัศน์มุ่งอนุรักษ์ สืบสาน และสร้างสรรค์วัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อเสริมสร้างรากฐานการพัฒนาสังคมที่เข้มแข็งและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยมีพันธกิจหลักประการหนึ่ง คือ การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ให้มีการรักษา สืบทอด และพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น การนำนิทรรศการ "สัทธรรมปุณฑริกสูตร สารแห่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว" มาจัดแสดงที่ประเทศไทยนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้ศึกษา เรียนรู้ แลกเปลี่ยน และทำความเข้าใจแนวคิดแห่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ตามที่ปรากฏอยู่ในพระสูตรทางพุทธศาสนา "สัทธรรมปุณฑริกสูตร" ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยังเป็นการทำนุบำรุงศาสนาและเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามอีกทางหนึ่ง เพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยเข้าใจแนวคิดมนุษยนิยม อันเป็นแนวคิดที่สนับสนุนความเท่าเทียมกันของชีวิตมนุษย์ทุกคน สิ่งนี้สอดคล้องกับกรอบทิศทางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรมระยะ 20 ปี ของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีเป้าหมายประการหนึ่ง คือ การผลักดันสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม เอื้ออาทร และมีความปรองดองสมานฉันท์เพิ่มมากขึ้น"
นายวีระกล่าวเสริมว่า "ในปีนี้เราฉลองความสัมพันธ์ 130 ปี ไทย-ญี่ปุ่น การนำนิทรรศการนี้มาเผยแพร่ จึงถือเป็นความสำคัญในระดับองค์กร ระดับประชาชน และผูกพันถึงความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลที่มีมาอย่างยาวนาน ภายในงานนิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตรฯ จะได้เห็นทั้งภาพและพระสูตรที่ได้รวบรวม คัดลอกทั้งตัวอักษรและภาพประกอบ อย่างวันนี้ที่นำมาเผยแพร่เป็นภาพวาดปวงเทพเทวาเหินเวหา ผมได้เห็นภาพวาดจริงที่ผนังถ้ำตุนหวงมาแล้ว ถือได้ว่าคัดลอกมาได้เหมือนของจริงมาก และภาพที่คัดลอกโดยแท้จริงจากฝีมือของศิลปินสมัยโบราณ เป็นฝีมือชั้นยอดเยี่ยม
เชื่อมั่นว่างานนิทรรศการนี้ จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และทำให้แนวคิดมนุษยนิยมแห่งการเคารพชีวิตมนุษย์ แผ่ขยายความเข้าใจอย่างกว้างขวางในสังคมไทย สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาด้านคุณธรรมและจริยธรรมอันดีงามในหมู่ประชาชน อีกทั้งยังส่งเสริมให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรมระยะ ๒๐ ปี เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด"
นายนวรัตน์ ชิโนมี ผู้อำนวยการสมาคมสร้างคุณค่าในประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการนำนิทรรศการนี้มาจัดแสดงในประเทศไทยว่า สมาคมสร้างคุณค่าในประเทศไทยเป็นองค์กรพุทธศาสนาที่ก่อตั้งในประเทศไทยมาแล้ว 56 ปี ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันเป็นเครือข่ายหนึ่งของสมาคมโซคาสากล ซึ่งมี ดร. ไดซาขุ อิเคดะ เป็นประธาน กิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมสันติภาพ วัฒนธรรม และการศึกษา ผ่านการสร้างสายสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประชาชนทุกคน โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ในการจัดกิจกรรมให้แก่สังคมในด้านวัฒนธรรม สันติภาพ และการศึกษา ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของนิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตรนี้ว่าเป็นนิทรรศการที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหลายประเทศทั่วโลก มีความโดดเด่นในการแสดงแนวคิดมนุษยนิยม อันเป็นแนวความคิดแห่งการเคารพในศักยภาพของชีวิตมนุษย์แต่ละคน ๆ อันนำมาซึ่งสันติภาพและความกลมเกลียวในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ และจะสามารถทำให้ผู้ที่เข้าชม เข้าใจและให้ความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวและสันติภาพได้อย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาผ่านมิติทางวัฒนธรรม จิตรกรรม ภาษา และศิลปะแขนงต่าง ๆ ที่เดินเรื่องราวตลอดเส้นทางสายไหม 'หนึ่งในมรดกโลก' ทางสมาคมสร้างคุณค่าในประเทศไทยจึงได้ขอความอนุเคราะห์สถาบันปรัชญาตะวันออก นำนิทรรศการนี้มาจัดแสดงที่ประเทศไทย"
นายฮิโรฟูมิ โคเซกิ เลขาธิการสถาบันปรัชญาตะวันออก ในฐานะผู้ร่วมจัดงานนิทรรศการสัทธรรม ปุณฑริกสูตร ซึ่งได้จัดแสดงมาแล้วมากถึง 28 แห่งทั่วโลก กล่าวถึงเนื้อหาภายในงานนิทรรศการว่า "นิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตรนี้ ผู้ชมจะได้พบกับบอร์ดแสดงเนื้อหาประมาณ 50 บอร์ด และสิ่งของที่จัดแสดงอีกประมาณ 160 ชิ้น โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอินเดียและแผ่ขยายไปในอาณาเขตของเอเชียอย่างกว้างขวาง นิทรรศการนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสัทธรรมปุณฑริกสูตร พระสูตรที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากประชาชนในหลายยุคสมัย โดยมีต้นฉบับที่มาจากสถานที่ต่าง ๆ ในเอเชีย ซึ่งถูกแปลเป็นหลายภาษา นอกจากนี้ ยังมีการสื่อความหมายให้สังคมเข้าใจถึงสารแห่งศักดิ์ศรีของชีวิต สันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวในสมัยปัจจุบัน รวมถึงการแนะนำสัทธรรมปุณฑริกสูตรผ่านภาพวาดบนผนังหมู่ถ้ำมั่วเกา ตุนหวง และภาพวาดประกอบที่ง่ายต่อการเข้าใจ ตลอดจนการแนะนำสิ่งของเก่าแก่ล้ำค่าที่เกี่ยวกับสัทธรรมปุณฑริกสูตรที่ได้รวบรวมมาจากสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก"
สถาบันปรัชญาตะวันออก (The Institute of Oriental Philosophy) ก่อตั้งขึ้นโดย ดร. ไดซาขุ อิเคดะ ประธานสมาคมโซคาสากล เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรัชญาตะวันออกทั่วไป และแนวคิดปรัชญาทางพุทธศาสนา โดยดำเนินการวิจัยแบบสหวิทยาการและบูรณาการ ภารกิจหลักประการหนึ่งของสถาบันปรัชญาตะวันออก คือ การวิจัยสัทธรรมปุณฑริกสูตร และการตีพิมพ์ต้นฉบับอันล้ำค่าของสัทธรรมปุณฑริกสูตรที่เก็บรักษาอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของโลกโดยความร่วมมือกับสมาคมโซคาสากล องค์กรพุทธศาสนาที่มีสมาชิกมากกว่า 12 ล้านคน ใน 192 ประเทศและเขตการปกครอง
ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภา มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก กล่าวถึงการเป็นผู้ร่วมจัดว่า "การจัดแสดงนิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตรครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้ศึกษาและทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อคำสอนทางพุทธศาสนาได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ผ่านการนำเสนอข้อมูลหลักฐานที่ได้รวบรวมจากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งล้ำค่า ในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่หาชมได้ยากยิ่ง คนไทยอาจไม่ได้มีโอกาสได้เห็น เพราะรวบรวมมาจากหลายประเทศมาก เพราะฉะนั้นประชาชนที่สนใจเกี่ยวกับการศึกษาพุทธศาสนา หรือเรื่องราวการเผยแพร่พุทธศาสนา หรือพระสูตรที่แตกต่างออกไป ถ้าได้มาดูจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยมาร่วมชมนิทรรศการสัทธรรมปุณฑริกสูตร เพื่ออิ่มเอมใจไปกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของพุทธศาสนา ชื่นชมกับสมบัติของมนุษยชาติที่ตกทอดมาหลายยุคหลายสมัย และสัมผัสกับประสบการณ์อีกมิติหนึ่งในเนื้อหาของพระสูตรทางพุทธศาสนาไปด้วยกัน"
นิทรรศการ "สัทธรรมปุณฑริกสูตร สารแห่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว" จัดแสดงระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 – 28 มิถุนายน 2560 เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ สมาคมสร้างคุณค่า ในประเทศไทย สำนักงานใหญ่ (ถนนติวานนท์) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.sgt.or.th/lotus-sutra-exhibition/
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit