นายสุรสีห์ กิตติมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า "จากการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2560 ได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง บริเวณลุ่มรับน้ำโดมและเขื่อนลำโดมใหญ่ อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี โดยขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวนรวม 9 เที่ยวบิน จำนวนชั่วโมงบิน 16 ชั่วโมง 10 นาที ใช้สารฝนหลวงจำนวนรวม 10 ตัน เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนลำโดมใหญ่และยังสามารถช่วยลดค่าความเป็นกรดในน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสาหร่ายบลูมและลดการก่อตัวของสาหร่ายบลูมได้อย่างต่อเนื่อง โดยสาหร่ายบลูมเกิดจากสาหร่ายได้รับสารอาหารจากการทิ้งน้ำซักล้างจากชุมชน น้ำจากสารเคมีใช้ทำเกษตรกรรม และน้ำเสียจากบ่อบำบัด ทำให้น้ำในบริเวณนี้มีธาตุอาหารสูง ประกอบกับมีการปิดเขื่อนลำโดมใหญ่ ทำให้น้ำนิ่ง ไม่ไหลและมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติ การปฏิบัติการฝนหลวงจึงเป็นการเติมน้ำในเขื่อน มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนลำโดมใหญ่มากขึ้น เพื่อช่วยผลักดันและการระบายน้ำได้ดีขึ้น โดยมีปริมาณน้ำฝน 28 มิลลิเมตร และปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนประมาณ 2.32 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งการทำงานร่วมบูรณาการกับสำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทาน ในการเปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งมีการระบายสะสมรวม 2,073 ลูกบาศก์เมตร เร่งระบายน้ำและผลักดันน้ำเพื่อกำจัดสาหร่ายบลูม ซึ่งสามารถแก้ปัญหาสาหร่ายบลูมบรรลุผลสำเร็จ ทำให้ผู้ใช้น้ำในคลองลำโดมใหญ่ มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรกลับเข้าสู่ภาวะปกติ"
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังคงปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วภูมิภาค โดยจากการปฏิบัติการฝนหลวงศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ภาคกลาง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี ได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ ซึ่งมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และภาคใต้ หน่วยปฏิบัติการหัวหิน ปฏิบัติการเพื่อเติมน้ำบริเวณลุ่มน้ำปราณบุรีและเขื่อนแก่งกระจานซึ่งมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องได้ที่ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit