คีตมหากาพย์ 48 - คงอยู่คู่ฟ้า เพลงพระราชนิพนธ์ 48 เพลงรูปแบบซิมโฟนีคลาสสิคครั้งแรกในประวัติศาสตร์
"48 คงอยู่คู่ฟ้า" เป็นพระบรมราชานุสรณ์ ณ เบื้องพระบรมบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นำเสนอ ศิลปินมีชื่อทั้งไทยและต่างชาติและผู้มีเกียรติที่กรุณารับเชิญเป็นนักร้องกิตติมศักดิ์ อาทิ คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น แอธาลี เดอ โคนิง-ดาวรุ่งแห่งวงการเพลงแจซ สเตซีย์ แทพเพน-ดารามหาอุปรากรระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ธนชัย อุชชิน-โมเดอร์นด๊อกยอดนิยม โจนัส แอนเดอร์สัน-ดาราลูกทุ่งเด่นดังจากสวีเดน ร่วมกับสยาม ฟิลฮาร์โมนิค กับ สยาม ซินโฟนิเอตต้า ซิมโฟนีออร์เคสตราไทยที่โลกยอมรับ กับ จีบ บางกอก วงคลาสสิคมีชื่อ และคณะนักร้องประสานเสียงหลากหลาย รวมทั้งสิ้นกว่า 200 ชีวิต
คอนเสิร์ต "48 – คงอยู่คู่ฟ้า" เปิดแสดงสองรอบเท่านั้น คือในวันเสาร์ที่ 13 และอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (หอประชุมใหญ่) การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 48 เพลงใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงละ 2ชั่วโมง (24 เพลง) เริ่ม 16.00 ถึง 21.30 น. (หยุดพักรับประทานอาหารระหว่าง 18.00 -19.30 น.)
การค้นคว้า เสาะแสวงและรวบรวมโน้ตเพลงพระราชนิพนธ์ในเวอร์ชั่นคลาสสิคเป็นงานที่ยากยิ่ง สมเถา สุจริตกุล กับทีมงานจำเป็นต้องค้นหาจากโนตที่ตีพิมพ์เผยแพร่ และจากความทรงจำของนักดนตรีอาวุโส ซึ่งสามารถทำได้โดยย้อนกลับไปยังเส้นทางซึ่งบุกเบิกโดย ม.ล. อัศนีย์ ปราโมช ผู้ถึงอนิจกรรมแล้วเมื่อไม่นานมานี้
สมเถากล่าวว่า "หม่อมหลวงอัศนีย์ได้เรียบเรียงเพลงพระราชนิพนธ์โดยใช้มโนภาพซึ่งเต็มไปด้วยสีสันที่น่าระทึกใจกับท่วงทำนองสด นอกจากนั้น เรายังได้ดนตรีเชมเบอร์ที่เรียบเรียงโดย ทฤษฎี ณ พัทลุง กับเวอร์ชั่นแจซสำหรับเครื่องดนตรี 3 ชิ้นสมบูรณ์แบบและซิมโฟนีออร์เคสตราของ เด่น อยู่ประเสริฐ รวมทั้งเวอร์ชั่นแจซเต็มขั้นโดย แอธาลี เดอ โคนิง"
พระราชนิพนธ์ "สายฝน" ที่เรียบเรียงโดย สมเถา สุจริตกุล เปิดแสดงครั้งแรก ณ หน้าพระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9เมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยคณะนักร้องประสานเสียงเด็กชายฟิลาเดลเฟีย Philadelphia Boys Choir แห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเดินทางแสดงทัวร์ทวีปเอเซีย อนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้สมเถายังได้นำเพลงนี้ไปบรรเลงบนเวทีโลกที่คาร์เนกีฮอลล์ นครนิวยอร์ก และคอนเสิร์ตเฮาส์ ณ กรุงเบอร์ลิน
คอนเสิร์ต "48 คงอยู่คู่ฟ้า" เป็นการนำเสนอความหลากหลายทุกแง่มุมของดนตรีอมตะ จากลีลาที่ได้รับอิทธิพลจากแจซ เพลงป๊อป ละครเพลงจนถึงมหาอุปรากร จากวงสตริง 4 ชิ้น ถึงออร์เคสตราวงใหญ่เต็มวงกับนักร้องประสานเสียงนับร้อย
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์เอกอัครศิลปินแห่งสยามประเทศ ทรงรังสรรค์ดนตรีซึ่งจะยืนยงคงอยู่ตลอดไป" สมเถากล่าว "เพลงพระราชนิพนธ์คือแรงบันดาลที่นำศิลปินทุกรุ่นทุกสมัยให้ติดตามค้นหาความหมาย และถ่ายทอดสืบต่อไปชั่วนิรันดร"
รายได้ส่วนหนึ่งมอบมูลนิธิรามาธิบดีเพื่อสมทบทุนการก่อสร้างสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์