ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/59 (กรกฎาคม – กันยายน 2559) บริษัทฯ ยังสามารถผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญทั้ง YoY และ QoQ โดยทำรายได้รวม 580.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีรายได้รวม 460.54 ล้านบาท และรายได้รวมยังเพิ่มขึ้น 5.16 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่มีรายได้รวม 575.11 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขกำไรสุทธิของไตรมาส 3/59 ทำได้ 71.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 59.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้ ยังเพิ่มขึ้น 0.14 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) ที่มีกำไรสุทธิ 71.43 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีปัจจัยจากธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติเติบโตได้ดี ทั้งการรุกขยายธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ ที่ตั้งเป้าเข้าซื้อกิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ 3 แห่งได้ครบตามแผนงานในปีนี้ โดยมี 1 แห่งที่สามารถรับรู้รายได้เต็มจำนวนในไตรมาส 3 ปีนี้ คิดเป็นปริมาณการขายเฉลี่ย 20,000 ตันต่อวัน เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้น
ขณะที่กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม หรือ iCNG ก็มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นจากจำนวนฐานลูกค้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อปริมาณการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติอัดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งจากการเติบโตดังกล่าว ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม – กันยายน 2559) ที่ทำรายได้รวม 1,831.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 448.88 ล้านบาท หรือเติบโต 32% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 1,382.26 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ225.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.31 ล้านบาทหรือคิดเป็น 33% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 169.74 ล้านบาท
"ศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติของ SCN ยังมีความแข็งแกร่งสามารถผลักดันการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 และงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งมาจากแผนยุทธศาสตร์ที่ต้องการขยายธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ผ่านรูปแบบการเข้าซื้อกิจการที่จะเป็นแรงผลักดันการเติบโตให้เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่งที่สูงขึ้น หลังราคาเฉลี่ยระหว่างก๊าซ NGV สำหรับยานยนต์กับน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ในภาคขนส่ง มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นถึง 11.97 บาท ทำให้ภาคขนส่งหันกลับมาใช้ก๊าซ NGV ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงมากกว่า รวมถึงธุรกิจ iCNG ที่มีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติอัดให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามจำนวนฐานลูกค้า ซึ่งช่วยผลักดันการเติบโตของ SCN ได้เป็นอย่างดี" ดร.ฤทธี กล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCN กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโต 40% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย โดยมีปัจจัยจากธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ และธุรกิจ iCNG ที่เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่เข้ามาช่วยผลักดันการเติบโต ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติอัดไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบีทียูต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จาการงานออกแบบและรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ให้แก่ ปตท. ในไตรมาส 4/59 และธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซธรรมชาติที่จะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ SCN ได้อย่างแข็งแกร่ง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit