"เรื่องนี้หนูเล่นในตอนที่ชื่อว่า 'ภารโรงกับหมาเห็นผี' ก็รับบทเป็นภารโรงที่ไม่พูดไม่จากับใครนอกจากหมาของตัวเอง เป็นภารโรงก็ต้องเดินตรวจตราทั่วโรงเรียนจนไปเจอกับเหตุการณ์สุดสยองเข้าจังๆ ก็ยังไม่เคยรับบทอย่างนี้มาก่อนครับ หนูชอบนะ อยากเล่นบทอย่างงี้ มันเป็นความท้าทายสำหรับนักแสดง มันไม่ต้องพูดไดอะล็อกเยอะ ตรงๆ เลยคือไม่ต้องจำบท (หัวเราะ) คือมันก็จะแบบนิ่งๆ แล้วก็อยู่กับอารมณ์ตัวเอง อยู่กับเหตุการณ์ แต่มันก็จะมีอะไรซ่อนอยู่ และก็ต้องสื่อสารทางสายตาให้ได้มากที่สุดว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ ที่สำคัญเลยคือเราต้องเล่นอยู่กับหมาทั้งเรื่อง เราก็ต้องมีวิธีสื่อสารกับหมา 'ไอ้ด๊อง' เนี่ยมันเป็นหมาที่ฉลาด เราก็ต้องทำความรู้จักให้สนิทสนมกับมันก่อนถึงจะไปเล่นกับมันได้ คือเข้ากองไปนี่หนูก็ตรงไปเล่นกับหมาก่อนเลย อย่างว่าแหละเป็นคนแปลกหน้ากันและยิ่งเค้าเป็นสัตว์ด้วย ตอนกินข้าวก็กินกับเค้าจานเดียวกัน คือเรากินอยู่ก็แบ่งให้มันกิน ให้รู้สึกเชื่อใจเราจนสนิทใจว่าเราไม่ได้คิดร้ายอะไรกับเค้านะ อย่างที่เค้าบอกว่าทำงานกับสัตว์เด็กเอฟเฟกต์สลิงมันยาก แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ไม่ได้หลายเทกมาก แต่บางครั้งมันก็ต้องมีลูกล่อลูกชน บางช็อตบางซีนพลังเต็ม บางช็อตบางซีนไม่เอาละ พอละ ให้เล่นอะไรก็ไม่เล่น เราก็ต้องรอคอยบ้างเหมือนกัน"ผู้กำกับฯ กล่าวเสริมว่า
"โก๊ะตี๋รับบทเป็นภารโรงผู้เงียบขรึม คือบทนี้สมใจมาก เพราะตั้งแต่เริ่มเขียนเรื่องนี้ก็คิดมาแต่แรกเลยว่า ต้องเป็นพี่โก๊ะแสดง โก๊ะตี๋เป็นนักแสดงตลกในดวงใจของเราเช่นกัน บทนี้เราลุ้นมาก เพราะโก๊ะตี๋ต้องเข้าฉากกับหมาด๊องตลอด ในเรื่องโก๊ะไม่พูดกับใคร แต่จะพูดกับด๊องอย่างเดียว โชคดีที่โก๊ะตี๋ตัวจริงก็ชอบหมา ไม่กลัวที่จะเข้าฉากแสดงร่วมกับหมาแปลกหน้า ซึ่งก็ใช้เวลาทำความรู้จักไม่นาน โก๊ะตี๋กับด๊องก็แสดงเข้ากันได้อย่างดี เวลามาถึงกองถ่ายอย่างแรกที่โก๊ะทำคือ เดินเข้าไปอุ้มด๊องก่อนเลยเพื่อสร้างความคุ้นเคย และถ้าว่างก็จะเดินจูง พูดคุยกับด๊องตลอด โก๊ะเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทมาก และก็ช่วยในแง่กำกับหมาด้วย เพราะการกำกับหมาส่วนใหญ่ต้องใช้เทคนิคหลอกล่อ ก็พอใจสำหรับเรามากเลย"
#โรงเรียนผี #HauntedSchool พร้อมหลอนทุกคาบ หลอกทุกโรงแล้ววันนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit