นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล
อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้สัมภาษณ์ในประเด็น
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกใน
วาระโอกาสต่างๆ ของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะหยุดการจำหน่ายเหรียญ
ชั่วคราวระหว่างวันที่ 7 - 11 พฤศจิกายน นี้ เพื่อเร่งกระจายเหรียญกษาปณ์ที่เหลือในสต๊อกประมาณกว่า 1 ล้านเหรียญไปยังต่างจังหวัดให้ครบทั้ง 76 จังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทั่วประเทศ ก่อนกลับมาจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ เบื้องต้นแต่ละจังหวัดจะได้รับจังหวัดละ 7,000 เหรียญ แบ่งเป็นจัดชุด 4,000 ชุด และไม่จัดชุดอีก 3,000 เหรียญ โดยจะเปิดให้แลกบัตรคิวโดยใช้บัตรประชาชน ซึ่ง 1 คิวจะสามารถซื้อได้เพียง 1 ชุดเท่านั้น และเวียนมาต่อแถวซ้ำอีกไม่ได้ ทั้งนี้เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในปัจจุบันยังเหลือที่สามารถเปิดจำหน่ายให้ประชาชนได้อีกประมาณ 5 ประเภท จากทั้งหมด 24 ประเภท เมื่อจำหน่ายเหรียญหมดแล้ว ไม่สามารถผลิตเพิ่มได้อีก และอยู่ระหว่างขบวนการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีก 2 รุ่นสุดท้าย จำนวน 800,000 เหรียญ เนื่องจากได้มีการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ไว้ในช่วงก่อนหน้า จะมีราคาหน้าเหรียญอยู่ที่ 20 บาท ได้แก่เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จำนวน 400,000 เหรียญ และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 400,000 เหรียญ พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างเตรียมขอพระบรมราชานุญาตในการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดช นอกจากนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการเตรียมจัดงาน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุลยเดช ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในเดือนธันวาคม ซึ่งภายในงานจะมีการเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกต่างๆ พระราชประวัติตั้งแต่การขึ้นครองราชจนถึงสวรรคต ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559