นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า 3 แนวทางดังกล่าวประกอบด้วย
1.)ให้สมาชิกกลุ่มที่มีการนำเข้าข้าวสาลี ทำการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงเดือน ต.ค-ธ.ค. ในจำนวนสัดส่วนเทียบเคียงการนำเข้าเฉลี่ยในอัตรา 1: 1.5 คือนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1.5 ส่วน เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนเดิมที่ 1 : 1 ทั้งนี้เพื่อช่วยระบายข้าวโพดและผ่อนคลายสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ล้นตลาดในปัจจุบัน
2)กรมการค้าภายในจะเชิญบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือ มาพูดคุยถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ปัจจุบันและจะวางมาตรการเป็นรายบริษัทต่อไป
3.)ทางสมาคมได้เสนอให้รัฐพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับจัดเก็บสต็อกข้าวโพดให้นานขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์รับจะนำไปพิจารณาต่อไป
"กรมการค้าภายในทราบดีว่ามีผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใดบ้างที่ให้ความร่วมมืออย่างดีโดยเฉพาะรายใหญ่ๆอย่าง ซีพี, เบทาโกร, แหลมทอง, ไทยฟู้ดส์, คาร์กิลล์ มีทส์ ก็ปฏิบัติตามด้วยดีมาโดยตลอดและไม่เคยรับซื้อข้าวโพดที่ความชื้น 14.5% ในราคาต่ำกว่า 8.- บาทเลย ขณะเดียวกันกรมฯก็รู้ด้วยว่า อีกหลายบริษัทงดซื้อข้าวโพดหรือซื้อในอัตราที่น้อยมาก" นายพรศิลป์กล่าวและขอให้สมาชิกสมาคมฯนำแนวทางไปปฏิบัติโดยทั่วกัน