น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก MSCI จะมีแนวโน้มประกาศปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยในช่วงกลางเดือนพ.ย. และกระแสคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนพ.ย.ทั้งนี้ ยังคงมีความกังวลจาก ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจาก FBI เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ขณะที่ผลสำรวจโพลล์ล่าสุดนางฮิลลารี คลินตันมีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่มากที่ 46% ต่อ 45 % รวมถึงราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังมีกระแสคาดการณ์ว่าการประชุมกลุ่มในและนอกโอเปกน่าจะไม่บรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 1- 2 พ.ย. การประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะทราบผลเช้าวันที่ 3 พ.ย.เวลาในไทยและในวันที่ 8 พ.ย. การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงอยู่ในกระแสการเก็งกำไรผลประกอบการ Q3/59 อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงหลังกลุ่มในและนอกโอเปกไม่สามารถตกลงการลดกำลังการผลิต ประกอบกับ Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ราว 1.8 หมื่นลบ. กดดันต่อทิศทางดัชนีดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนขาขึ้นโดยมีกรอบเคลื่อนตัวที่ 1,480 - 1,520 จุด ทั้งนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ หุ้นที่คาดว่างบ Q3/59 จะเติบโตขึ้น แนะนำ KCE, CPALL, BEAUTY, GFPT, FSMART, TPCH, WICE และACAP รวมทั้ง BANPU ที่ได้รับผลดีจากการที่ราคาถ่านหินปรับขึ้นทำนิวไฮในรอบ 4 ปี ล่าสุด 109 ดอลลาร์ต่อตัน
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนด้วยทิศทางที่เป็นบวกเล็กน้อยโดยมีปัจจัยที่เข้ามากระทบได้แก่ Conference Board เผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับลดลงมากกว่าคาดแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค. หลังจากปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 104.1 ในเดือนก.ย. ประกอบกับความไม่แน่นอนในผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.นี้ หลัง FBI เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งส่งผลบวกต่อทองคำ
อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้ในกรอบจำกัดหลังรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐฯที่ออกมาขยายตัวมากกว่าคาดโดยอยู่ที่ระดับ 2.9% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% นอกจากนี้ รายงานการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. รวมถึงกระแสการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. โดย CME Group FedWatch ระบุว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 73% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. และมีโอกาสเพียง 6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.
สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาค่อยๆฟื้นตัวขึ้นหลังพักตัวออกข้างมาระยะหนึ่ง โดยมีแรงหนุนจากแนวรับสัญญาณ GOLDEN CROSS บวกกับฐานแนวการสร้างรูปแบบขึ้น ROUNDING BOTTOM ระยะสั้นและค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้นเป็นแรงหนุน ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยมีแนวรับ 1,255-1,250 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,300-1,305เหรียญต่อทรอยออนซ์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit