นายพิสิทธิ์ ขวัญทองเย็น นักศึกษาชั้นปีที่ 3 โปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ในฐานะประธานโครงการนำเสนอผลงานการแสดง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางโปรแกรมฯ มีการเรียนการสอนในรายวิชาอาศรมศึกษา ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ศึกษาประวัติ ผลงาน และฝึกปฏิบัติกับศิลปินในศาสตร์ด้านศิลปะการแสดงที่ตนเองสนใจ จากนั้นจึงนำผลงานที่ได้ศึกษาจากศิลปินแขนงต่างๆ มาจัดแสดง เช่น นาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์พื้นเมือง นาฏศิลป์สากล ละคร ซึ่งคำว่าโสภณศาสตร์ศิลป์ธีระบุรินทร์รังสรรค์นั้น สื่อความหมายถึงความงามของศิลปะการแสดงที่นักปราชญ์ในแผ่นดินได้สร้างขึ้นนั่นเอง คอนเซ็ปต์ของงานในครั้งนี้เป็นการนำเอาการแสดงทุกๆ พื้นที่ในประเทศและต่างประเทศมารวมกันไว้ที่นี่ โดยได้ค้นหาอาจารย์เก่งๆ ในศาสตร์แต่ละแขนงและนำกลเม็ดเคล็ดลับมาใช้ในการแสดงแต่ละชุด ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 พ.ย.59 ณ โรงละครชั้น 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา
นายพิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการแสดงในส่วนของตนนั้นชื่อชุด ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง นำเสนอเรื่องราวความรักของกลุ่มชายรักชายให้สังคมได้เห็นและรับรู้ เป็นความรักที่สวยงามยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้มีความสุขในชีวิตคู่ แต่แล้วธรรมชาติก็ย่อมสร้างผู้ชายให้คู่กับผู้หญิง เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงคอนเทมโพรารี่แดนซ์ (Contemporary Dance ผสมผสานกับโมเดอร์นแดนซ์ (Modern Dance) ทุกท่วงท่าลีลาจังหวะบอกเล่าถึงอารมณ์และความรู้สึกผ่านบทเพลงผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง ของ อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ โดยมี นายอาทิตย์ พงษ์กลัด จากสถาบันบางกอกแด๊นซ์ คลาส Jazz Dance,Street dance เป็นอาจารย์ผู้ถ่ายทอดการแสดง
ด้าน น.ส.ศศลักษณ์ จันทร์ยัง โปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนแสดงในชุดพระไวยเกี้ยวนางวันทอง การแสดงชุดนี้สื่อถึงความรักของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูก ถึงแม้นางวันทองจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกในการทำศึกจึงแปลงกายเป็นหญิงสาว เพื่อมาบอกลูกอย่าประมาทในการทำศึก ซึ่งเหตุผลที่เลือกแสดงเป็นพระไวย เนื่องจากได้ไปศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ เป็นตัวละครที่มีรูปร่างงาม มีความกล้าหาญ ฉลาด และมีบุคลิกที่น่าสนใจ คือ มีความเจ้าเล่ห์เจ้ากล เจ้าชู้ โดยการแสดงชุดนี้เป็นการรำเข้าคู่ ซึ่งตนกับเพื่อนอยู่คนละหอพัก จึงต้องแยกกันซ้อม แต่ก็พยายามหาเวลาว่างมาซ้อมด้วยกัน ประการสำคัญ การมีโอกาสร่วมแสดงในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ เพราะกระบวนท่ารำที่ได้ไปศึกษานั้นได้รับการถ่ายทอดจากศิลปินแห่งชาติ ดร.ชวลิต สุนทรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการละครและดนตรี สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ซึ่งเป็นแบบแผนที่ถูกต้อง ดังนั้น จึงรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำมาเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้รับชม
นายสมมาส ห่อคำ นักศึกษาโปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง กล่าวบ้างว่า ตนได้ไปศึกษาลิเกกับศิลปินที่ จ.อยุธยา คณะพัลลภ มยุรา เพชรรุ่ง ซึ่งเป็นการแสดงพื้นเมืองของภาคกลาง ที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะรำแล้วยังมีบทร้องที่ยากมาก แต่ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรยากเกินความสามารถและความตั้งใจ สำหรับภาคใต้นั้นน้อยมากที่จะได้เห็นการแสดงลิเก ดังนั้น ตนจึงเลือกศิลปะการแสดงแขนงนี้มาเผยแพร่ให้รุ่นน้องหรือเยาวชนที่สนใจได้รับชม นอกจากการแสดงลิเกแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานอื่นๆ ที่นักศึกษาปี 3 ลงพื้นที่ทั้ง 4 ภาคและต่างประเทศ เพื่อไปหาแก่นแท้ของศาสตร์แต่ละแขนงจากศิลปินผู้มีชื่อเสียง และนำศิลปวัฒนธรรมที่มากด้วยคุณค่าเหล่านั้นมาเผยแพร่
ขณะที่ นายธีระยุทธ แก้วดี กล่าวว่า การจัดนำเสนอผลงานในครั้งนี้ ทำให้ตัวนักศึกษามีทักษะทางการแสดงเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังได้เรียนรู้การแสดงของท้องถิ่นอื่นๆ รวมทั้งได้แสดงศักยภาพที่ได้รับจากอาจารย์ผู้ถ่ายทอดท่ารำ ตลอดจนได้เรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับเทคนิคต่างๆ ของอาจารย์แต่ละท่าน ซึ่งจะช่วยให้การแสดงที่จะเกิดขึ้นนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ปิดท้ายด้วย นายกิติภพ แก้วย้อย ซึ่งแสดงในชุดซาปิงหนุมาน กล่าวว่า ก่อนจะถึงวันแสดงตนฝึกอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด และจะถ่ายทอดสิ่งที่ได้เรียนรู้มาให้กับรุ่นน้องในโปรแกรมฯ และเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจ เพื่อจะได้ช่วยกันสืบสานศิลปะการแสดงให้คงอยู่ต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit