ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ได้สะท้อนถึงวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของชุมชนในพื้นที่ ตำบลหนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ถ่ายทอดกันมายาวนานจากบรรพบุรุษ กำลังถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ จากข้อมูลการย้ายถิ่นของประชากรในพื้นที่ เพื่อออกไปหางานทำในเมืองหลวง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการทำเกษตรแบบผิดวิธี และผิดเพี้ยนจากที่บรรพบุรุษได้ทำมาตั้งแต่ในอดีต โดยปัจจุบันชาวบ้านเน้นการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแมลงจำนวนมากขึ้นเพื่อทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม บริษัท สยามลวดเหล็กอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท ที เอส เอ็น ไวร์ จำกัด (บริษัทในเครือ) เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จึงให้ความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ โดยริเริ่มโครงการ "เกษตรสัญจร" ตามแนวนโยบายของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจริงในโรงเรียน ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง (School-BIRD) เพื่อปลูกฝังแนวความคิดการเกษตรแบบยั่งยืน ปลอดสารเคมี และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความรู้ เกี่ยวกับการนำวัสดุที่มีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การสร้างจิตสำนึกรักในถิ่นฐานบ้านเกิด และทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรมอันเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยมายาวนาน
นายนิกร อ่องอ่อน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส-ทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ เรื่องเกษตรกรรมของคนไทยกลายเป็นเรื่องห่างไกล โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี กระแสสังคม ค่านิยม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กและเยาวชนขาดการเรียนรู้ในทางปฎิบัติจริง ดังนั้นการสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนรุ่นใหม่หรือแม้กระทั่งลูกหลานเกษตรกรเอง หันมาสนใจด้านเกษตรกรรมจึงเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาที่สำคัญ ซึ่งโครงการ "เกษตรสัญจร" เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยผลักดันและพัฒนาเยาวชนให้เกิดทัศนคติที่ดี มีความภูมิใจในการเป็นครอบครัวเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพที่สุจริต สามารถสร้างรายได้และประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกับอาชีพอื่น ๆ เช่นกัน
สำหรับกิจกรรม เรามุ่งเน้นการให้ความรู้ในรูปแบบของการทัศนศึกษาหรือท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศ โดยนำนักเรียนจาก 6 โรงเรียน ตำบลหนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้แก่ โรงเรียนวัดดอนจันทน์ โรงเรียนวัดละหารไร่ โรงเรียนบ้านหนองละลอก โรงเรียนวัดหนองกระบอก โรงเรียนวัดเชิงเนิน และโรงเรียนบ้านมาบตอง ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องในโครงการ School-BIRD เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้วิถีเกษตรแบบเจาะลึกที่จะช่วยสร้างมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการเกษตรรูปแบบใหม่ ว่าไม่ได้ยุ่งยากและลำบากอย่างที่คิด
โดยตลอดการทำกิจกรรม นอกจากความรู้ด้านทฤษฎี เด็กๆ ยังได้ลงมือปฏิบัติจริง รวมถึงค้นหาแนวคิดใหม่ๆ ด้วยตนเองนอกเหนือจากการสอนในห้องเรียน ทำให้เด็กๆ มีความเข้าใจเรื่องการทำเกษตรมากขึ้น อาทิ วิธีการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฎาน การทำปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุธรรมชาติ รวมถึงชมกระบวนการปลูกและผลิตข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ วิธีการบรรจุข้าวเพื่อจำหน่ายเป็นสินค้า OTOP ณ ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ บ้านตรอกสตบรรณ ก่อนจะปิดท้ายด้วยชมการสาธิตและเทคนิคการเพาะต้นอ่อนเมล็ดทานตะวัน และการปลูกต้นกุยช่ายขาว จากพี่ๆ พนักงานจิตอาสา สยามลวดเหล็กฯ ที่ศูนย์การเรียนรู้สวนเกษตรอินทรีย์ SIW 1 Rai Farm1 ตั้งอยู่บริเวณโรงงานสยามลวดเหล็กฯ เพื่อให้เด็กๆ ลองไปเพาะกินเองที่บ้านกันอีกด้วย
กิจกรรมดังกล่าว ไม่เพียงถ่ายทอดประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่กลุ่มเยาวชนเท่านั้น เรายังมุ่งต่อยอดสร้างแรงจูงใจให้กับชุมชน รวมไปถึงพนักงานบริษัทฯ เกิดความเข้าใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบ รู้จักการพึ่งพาตนเอง มีรายได้พออยู่ พอกิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีในท้องถิ่นของตนเอง ตามแนวพระราชดำริฯ คุณนิกร กล่าวเสริม
ฐาปณีย์ โลพันดุง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเชิงเนิน กล่าวว่า โรงเรียนให้ความใส่ใจกับการเรียนการสอน โดยอยากให้เด็กๆ เป็นนักคิด นักปฏิบัติ เกิดความรู้สึกรับผิดชอบ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตรพอเพียง ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่เนื้อหาทางวิชาการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เด็กนักเรียนบางคน พ่อ-แม่ มีอาชีพเกษตรกรรมทำนา ปลูกข้าว ปลูกพืชผักสวนครัว แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าการทำการเกษตรจริงๆ เขาทำกันอย่างไร ดังนั้นการเข้าร่วมกิจกรรม "เกษตรสัญจร" ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างมาก นอกจากเด็กๆ จะได้รับความสนุกสนานแล้ว ยังเพิ่มแนวทางให้นักเรียนสามารถใช้พื้นที่ที่โรงเรียนและที่อยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์ ตลอดจนช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ เห็นคุณค่าและความสำคัญของอาชีพเกษตรกรรมว่ามีความเกี่ยวข้องต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร
ขณะที่ ด.ญ.ญานิศา สดมุ้ย นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดเชิงเนิน กล่าวหลังร่วมกิจกรรมว่า รู้สึกสนุก ตื่นเต้น ที่ได้มาเห็นวิถีชีวิตเกษตรพอเพียงของชุมชนบ้านตรอกสตบรรณ พร้อมกับได้เรียนรู้วิธีการทำเกษตรด้วยตัวเอง ทั้งการทำปุ๋ยอินทรีย์ การปลูกพืชด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการแยกกอ รวมถึงได้ลงมือทำก้อนเชื้อเห็ด และการเพาะต้นอ่อนทานตะวันในตะกร้าจากวัสดุเหลือใช้ นอกจากจะสามารถปลูกไว้รับประทานเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว เรายังสามารถแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ ในชุมชน หรือนำไปขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกด้วย
ส่วน ด.ญ.โมลิก้า มอม นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองละลอก เล่าว่า ได้ทั้งความสนุกและประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาทำกิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรนอกโรงเรียน ปกติพ่อแม่มีอาชีพทำสวนยางพารา จึงไม่รู้ว่าการทำเกษตรเขาทำกันอย่างไร พอได้มาลองทำจริงๆ ก็รู้สึกว่าไม่ยากอย่างที่คิด และอยากเอาไปลองทำดูบ้าง ถ้าทำสำเร็จก็จะไปนำไปสอนพ่อกับแม่ และบอกต่อคนอื่นๆ ให้ได้รู้ว่าประโยชน์ของการทำการเกษตรมีข้อดีอย่างไร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit