นายอัครพงศ์ ศรีสุพรรณดิฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังร่วมเปิดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ "Thai Business Council Trade Fair 2016 ณ ศูนย์แสดงสินค้าเกาะเพชร กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2559
รัฐบาลไทย โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ มีนโยบายสำคัญด้วยการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEsโดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทย มีโครงสร้างเศรษฐกิจบนฐานของผู้ประกอบการ SMEs และเตรียมการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ "ไทยแลนด์ 4.0" หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
สสว.ในฐานะหน่วยงานของรัฐ จึงมีภารกิจหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Strong / Regular Level) ซึ่งการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME ที่อยู่ในระดับเติบโต ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล มีโอกาสในการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งได้ศึกษาลู่ทางการค้า เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของกิจการเป็นหนึ่งในกิจกรรมโครงการที่สำคัญยิ่ง
สสว. โดยความร่วมมือกับ สมาคมมิตรภาพไทย – กัมพูชา สภาหอการค้ากัมพูชา - ไทย และหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษร่วมจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์แสดงสินค้าเกาะเพชร กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ผู้ประกอบการไทยร่วมกิจกรรมออกบูธในงานรวมกว่า 300 รายประกอบด้วย กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าสุขภาพความงาม สปา เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน ของตกแต่งบ้าน สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง ของใช้สำนักงาน อุปกรณ์ด้านการเกษตร ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสมาชิกภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Strong/ Regular Level Strong/Regular Level) 120 ราย และภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจ (SME Turn Around) จำนวน 5 ราย รวม 125 ราย ซึ่งผ่านการคัดเลือกและได้รับการสนันบสนุนจาก สสว.
คาดจะมียอดขายปลีกตลอดงานกว่า 30 ล้านบาท และมูลค่าการค้าจากการเจรจาธุรกิจไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาท รวมมูลค่าการค้าเป้าหมายกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งผู้บริโภคชาวกัมพูชาให้ความสนใจสินค้ากลุ่มอาหารเครื่องดื่ม สินค้าเกษตรแปรรูป และเกษตรอุตสาหกรรม ตลอดจนแฟชั่นเสื้อผ้า และอัญมณีเป็นอย่างมาก
การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นสมาชิกในโครงการ ของ สสว. ไปขยายตลาดต่างประเทศนั้น เป็นกิจกรรมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด ที่ สสว.ได้ดำเนินการนำผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้า (Business Matching) ในกลุ่มประเทศ ASEAN+6 หรือประเทศคู่ค้าใหม่ตามนโยบายรัฐบาลพร้อมกับคณะดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในประเทศต่าง ๆ เช่น อิหร่าน รัสเซีย ศรีลังกา เกาหลี รวมทั้งพิจารณาการนำผู้ประกอบการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศทางตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน จีน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อต่างประเทศ (Buyer) และในระยะต่อไป สสว.มีแผนที่จะพาผู้ประกอบการไทยไปเปิดตลาดต่างประเทศ ในประเทศไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 นี้
ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว๊บไซต์ สสว.www.sme.go.th หรือทางโซเชียลมีเดีย www.facebook.com/osmep
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit