http://photos.prnasia.com/prnvar/20161114/8521607402-a
คำบรรยายภาพ: เอกสารรับรองจาก Suruhanjaya Syarikat Malaysia (SSM)
หลังจากที่ผ่านการรับรองในเบื้องต้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในที่สุดหน่วยงาน Suruhanjaya Syarikat Malaysia (SSM) ก็ได้มอบเอกสารรับรองอย่างเป็นทางการให้แก่บริษัท สำหรับการดำเนินงานด้านการปลูกต้นกฤษณาทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศ ส่งผลให้ Asia Plantation Capital ก้าวขึ้นเป็นบริษัทบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
SSM เป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมายของมาเลเซียซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทและธุรกิจต่างๆ อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานชั้นนำของประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับบรรษัทภิบาล ตลอดจนดูแลด้านการจดทะเบียนธุรกิจและกวดขันการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ในฐานะองค์กรบังคับใช้กฎหมาย SSM จึงมีแนวปฏิบัติที่เข้มงวด ซึ่งโครงการเพาะปลูกของ Asia Plantation Capital ในเมืองบาตูปาฮัท รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ได้ดำเนินการถูกต้องตามข้อกำหนดของทางองค์กรทุกประการ
http://photos.prnasia.com/prnvar/20161114/8521607402-b
คำบรรยายภาพ: โรงงานและโรงกลั่นน้ำมันกฤษณาของ Asia Plantation Capital Berhad ในเมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย
สตีฟ วัตส์ ซีอีโอของ Asia Plantation Capital Berhad กล่าวว่า "เรารู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นบริษัทแห่งแรกของเอเชียที่ได้รับเอกสารรับรองการดำเนินงานด้านการปลูกต้นกฤษณา ดังที่เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมไม้กฤษณาต้องมีการวางกรอบข้อบังคับที่ครอบคลุม Asia Plantation Capital Group จึงเดินหน้าสนับสนุนการวางข้อกำหนดในอุตสาหกรรมไม้กฤษณาในเอเชียมาโดยตลอด ทีมงานของบริษัทต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจว่า โมเดลธุรกิจของเรามีความโปร่งใส ถูกต้องตามหลักจริยธรรม รวมถึงได้มาตรฐานของ SSM และที่ปรึกษาอิสระของเราในทุกขั้นตอน และนี่คือก้าวสำคัญสำหรับบริษัท เราเชื่อว่าทุกบริษัทที่ลงทุนในพื้นที่เพาะปลูกในเอเชีย ต้องดำเนินงานภายใต้กรอบข้อบังคับเช่นเดียวกัน โดยนอกจากจะก่อให้เกิดบรรษัทภิบาลที่ดีแล้ว ยังช่วยคุ้มครองนักลงทุนด้วย ซึ่งผมคิดว่าทุกบริษัทต้องมีทั้งสองอย่างควบคู่กัน"
อุตสาหกรรมการปลูกไม้กฤษณาในเอเชียมีอัตราการเติบโตเป็นเท่าทวีคูณ และ Asia Plantation Capital ซึ่งใช้โมเดลธุรกิจแบบบูรณาการแนวดิ่ง "Soil to Oil" ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคในปัจจุบัน โดยบริษัทมีพื้นที่เพาะปลูกต้นกฤษณาเป็นของตัวเอง นอกจากนั้นยังบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้กับลูกค้าทั้งจากภาคสถาบันและภาคเอกชน อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณาครบวงจร ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการปลูกเชื้อและการกลั่นของบริษัทยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม และทำให้บริษัทก้าวสู่แถวหน้าของวงการ
http://photos.prnasia.com/prnvar/20161114/8521607402-c
คำบรรยายภาพ: ต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรียที่กำลังถูกปลูกเชื้อ ในพื้นที่เพาะปลูกของ Asia Plantation Capital
ล่าสุดได้มีการค้นพบว่าน้ำมันกฤษณามีคุณสมบัติในการชะลอวัย ซึ่งคาดว่าจะทำให้น้ำมันกฤษณาเป็นที่ต้องการมากขึ้นในอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นอกจากนี้ Asia Plantation Capital ยังทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของน้ำมันกฤษณาในการรักษาโรคมะเร็งประเภทต่างๆ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน ตลาดไม้กฤษณา น้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ และชิ้นไม้สับ มีมูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีทั่วโลก ยังไม่นับรวมอุตสาหกรรมน้ำหอมที่มีมูลค่าถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เนื่องจากความต้องการน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่การปลูกต้นกฤษณาเพื่อการพาณิชย์ต้องใช้เวลามากถึง 7-15 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีบริษัทมากมายเสนอตัวเข้ามาลงทุนและบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกต้นกฤษณา
อย่างไรก็ดี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมีความจำเป็นอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมนี้ และ Asia Plantation Capital ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม จากความสามารถในการคิดค้นและตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หลังจากที่ได้มีการวิจัยอย่างยาวนาน Asia Plantation Capital ได้พิสูจน์ว่ามีเพียงน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์จากธรรมชาติเท่านั้น จึงจะมีสารที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็งและช่วยชะลอวัย ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้น้ำมันกฤษณา "ของแท้" ยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้น ขณะที่การปลูกต้นกฤษณาด้วยวิธีที่ยั่งยืนก็ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน
อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 4.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี(ข้อมูลจากปี 2557) โดยข้อมูลบนเว็บไซต์ statista.com ระบุว่า เฉพาะอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีมูลค่าสูงถึง 1.21 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2559 นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ Asia Plantation Capital ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชื่อดังหลายแห่งในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ใช้น้ำมันกฤษณาเป็นส่วนประกอบ เพื่อรุกตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
Asia Plantation Capital และบริษัทในเครือ ไม่ได้เป็นเพียงผู้เดียวที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดที่กำลังเติบโตนี้ และนี่เป็นเหตุผลที่เราจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าจะมีการวางข้อกำหนดอย่างแน่นหนาและมีการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมว่าด้วยเรื่องของความโปร่งใสและความยั่งยืนที่เราให้ความสำคัญ และนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เราได้รับการรับรองจากหน่วยงาน SSM ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลบริษัทต่างๆในประเทศ
ซีที ชู ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ Asia Plantation Capital ในมาเลเซีย กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ Asia Plantation Capital ผ่านการรับรองตามมาตรฐานอันเข้มงวดของ SSM โดยทางหน่วยงานมีท่าทีตอบรับที่เป็นบวกต่อการยื่นเรื่องของ Asia Plantation Capital นับเป็นตัวอย่างที่ดีของโครงการเพาะปลูกที่ทางรัฐบาลมาเลเซียยินดีให้การสนับสนุน เราเชื่อว่าทุกบริษัทที่ทำธุรกิจนี้ควรถูกคุมเข้ม มิใช่เพียงเพื่อปกป้องนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าน้ำมันกฤษณาที่เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานต้องมาจากแหล่งที่มีความยั่งยืนเท่านั้น ในปี 2543 CITES* ได้ห้ามมิให้มีการตัดไม้กฤษณาในป่า และต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรียยังถือเป็นไม้ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากยังคงมีกลุ่มบุคคลและบริษัทหลายแห่งที่ลักลอบตัดไม้อย่างผิดกฎหมายละไร้ศีลธรรม ขณะที่ Asia Plantation Capital ตั้งตนอยู่ในความถูกต้อง โดยไม่เพียงแค่ยื่นเรื่องเพื่อขอเอกสารรับรองเท่านั้น แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่าบริษัทมีระบบและโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อมสมกับที่ได้รับการรับรอง"
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ซาอาฮิรา มูฮัมหมัด
ผู้บริหารอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: [email protected]
โทร: +6012-203-5344
ซาแมนธา ธาม
ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: [email protected]
มือถือ: +65-9144-0933
*อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital Berhad
Asia Plantation Capital Berhad เป็นบริษัทในเครือของ Asia Plantation Capital Group ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกที่เติบโตรวดเร็วที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก บริษัทเป็นผู้กรุยทางด้านการเพาะต้นอ่อน ส่งเสริมการทำป่าไม้ บุกเบิกวิธีการปลูกเชื้อ พัฒนาเทคนิคการเก็บเกี่ยว วิธีการกลั่น และแปรรูปผลิตภัณฑ์ ไปพร้อมกับการมอบผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญแก่ชุมชนท้องถิ่น
เกี่ยวกับ Suruhanjaya Syarikat Malaysia
Suruhanjaya Syarikat Malaysia (SSM) หรือ Companies Commission of Malaysia ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2545 จากการรวมตัวกันของ Registrar of Companies (ROC) และ Registrar of Businesses (ROB) โดยทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทและธุรกิจต่างๆ พร้อมรายงานข้อมูลของบริษัทและธุรกิจแก่สาธารณชนในมาเลเซีย SSM มีอำนาจในการบังคับจดทะเบียนธุรกิจและกวดขันการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และยังมีหน้าที่ตรวจสอบกิจกรรมและการเคลื่อนไหวทั้งหมดในภาคบริษัทและภาคธุรกิจของมาเลเซีย
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20161114/8521607402-a
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20161114/8521607402-b
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20161114/8521607402-c
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit