"สร้างสุขที่ปลายทาง" นับเป็นงานแรกในประเทศ ที่มีจุดมุ่งหมายในการสื่อสารและเปิดพื้นที่ให้กับทุกภาคส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาวะในระยะท้ายในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาเกี่ยวกับมาตรา 12 ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ที่ว่าด้วยสิทธิการตายตามธรรมชาติ ที่สช.มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจในสิทธิด้านสุขภาพนี้มาครบ 1 ทศวรรษ จนเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้
คณะผู้จัดงานของสช. ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรา 12 ว่า กฎหมายนี้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาปฏิเสธการรักษาที่เป็นเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้าย โดยสาระสำคัญของ ม.12 ระบุไว้ว่า "บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้ การดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้ปฏิบัติตามเจตนาของบุคคลตามวรรคหนึ่งแล้ว มิให้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและให้พ้นจากความรับผิดทั้งปวง"
นอกจากความรู้เกี่ยวกับม.12 แล้ว การประชุม "สร้างสุขที่ปลายทาง" ยังมีวัตถุประสงค์หลักในการยกระดับการรับรู้ของสังคมในเรื่องการสร้างเสริมสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิต คืออยู่อย่างไรให้มีสุขทั้งด้านกาย จิต การใช้ชีวิตในสังคม และปัญญา ในช่วงสูงวัยไปจนถึงปลายทาง ตลอดจนมีทัศนคติเกี่ยวกับความตายว่าเป็นขั้นตอนตามธรรมชาติของชีวิต เพื่อสร้างทางเลือกให้ตัวเองสามารถวางแผนการรักษาพยาบาลล่วงหน้า โดยภายในงานจะมีวงเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มากมาย ตลอดจนลานเรียนรู้ ที่นำเสนอผลงานขององค์กรด้านสุขภาพ กฎหมาย และภาคประชาสังคมที่ทำงานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อสร้างความรู้และคุณภาพชีวิตให้ประชาชนไทย
ในวงเสวนา "มุมมองความตายสายอินดี้" ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน คุณชายอดัมจะร่วมแสดงมุมมองต่อความตายในทัศนะของคนรุ่นใหม่ ร่วมกับวิทยากรซึ่งเป็นนักคิดนักเขียนอีกสองคน คือคุณโตมร ศุขปรีชา และคุณทีปกร วุฒิพิทยามงคล ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความคมคายทางความคิดอย่างน่าติดตาม ผู้สนใจร่วมงาน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและลงทะเบียนเข้าร่วมงานกันได้ที่ www.facebook.com/สุขปลายทาง หรือhttp://registhailivingwill.jupinnothai.com ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป