ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ระดับน้ำเริ่มลดลง พร้อมประสานจังหวัดตอนบนเตรียมรับมืออากาศหนาวเย็น ส่วนพื้นที่ภาคใต้ยังมีฝนตกในระยะนี้

14 Nov 2016
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี และกระบี่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตรในบางแห่ง ขณะที่ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกปกคลุมในช่วงเช้า ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกในระยะนี้ ซึ่ง ปภ. ได้ประสานให้จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องจักรกลให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ใน 4 จังหวัด รวม 13 อำเภอ 36 ตำบล 94 หมู่บ้าน ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอปางมะผ้า รวม 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 356 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 620 ไร่ ตาก น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอพบพระ อำเภอบ้านตาก และอำเภอสามเงา รวม 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน อุทัยธานี น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองฉาง อำเภอทัพทัน อำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอหนองขาหย่าง รวม 21 ตำบล 67 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 561 ครัวเรือน คาดว่าพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 6,695 ไร่ ถนน 5 สาย ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 3 จังหวัด ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มการเกษตรบางแห่ง และระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง กระบี่ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 19 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการฟื้นฟู ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมประสานการระบายน้ำกับหน่วยชลประทานในพื้นที่อย่างใกล้ชิดติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจไปยังแหล่งรองรับน้ำ ตลอดจนให้ซ่อมแซมสาธารณูปโภค และสิ่งสาธารณประโยชน์ให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีปริมาณฝนลดลงและมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น และวางมาตรการป้องกันภัยในช่วงฤดูหนาว เน้นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลสภาพอากาศและภาวะความเสี่ยงภัยในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงดำเนินชีวิตในช่วงฤดูหนาวได้อย่างปลอดภัย สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเปิดไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงหมอกปกคลุมเส้นทาง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกในระยะนี้ ปภ.จึงได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องจักรกลให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป