รศ.ดร.ทิพย์รัตน์ วงษ์เจริญ รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจภาวะการมีงานทำของบัณฑิตระดับปริญญาตรีที่สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปีการศึกษา 2557 พบว่าบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกไปมีงานทำเฉลี่ยเกือบร้อยละ 100 และมีระดับเงินเดือนสูงสูงกว่ามาตรฐานของประเทศอันดับต้นๆ นอกนั้นเป็นผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ทั้งนี้ จากข้อมูลจำนวนดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้ภาวการณ์มีงานทำของบัณฑิต ม.กรุงเทพสูง เนื่องจาก2-3 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเพิ่งศักยภาพของบัณฑิต ทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ในด้านทักษะการปฏิบัติงาน ความคิดสร้างสรรค์ และด้านภาษา รวมถึงปลูกฝังความรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ของตนเองในการทำงาน
"จากการสอบถามสถานสถานประกอบการที่เลือกใช้บัณฑิตม.กรุงเทพ ส่วนใหญ่พึงพอใจมาก เพราะไม่ต้องการเสียเวลาในการสอน เนื่องจากบัณฑิตของเราสามารถทำงานได้ทันที ใช้เครื่องมือต่างๆในสถานประกอบการได้ ซึ่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้มีการพัฒนาการเรียนการสอนโดยนำอุปกรณ์ เทคโนโลยีใหม่ๆที่ใช้จริงในสถานประกอบการมาให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติ ได้สัมผัส เรียนรู้เสมือนได้เข้าไปทำงานในสถานประกอบการ อีกทั้งยังกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบที่สามารถบูรณาการให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และปลูกฝังความรับผิดชอบในการทำงาน สู้งาน และรู้จักปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อเข้าไปอยู่ในสถานประกอบการก็สามารถตอบรับความต้องการ ทำงานที่ได้รับมอบหมาย ได้ บัณฑิตที่จบจาม.กรุงเพท จึงเป็นที่ต้องการของสถานประกอบการ ได้ทำงานตามความชอบ ตามความต้องการในสิ่งที่ตัวเองเรียน นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ตัวเองและครอบครัวได้ " รศ.ดร.ทิพย์รัตน์กล่าว
รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ กล่าวต่อไปว่า ม.กรุงเทพได้ประกาศเป็นมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปรับหลักสูตรให้นักศึกษามีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ และรู้จักงาน สร้างธุรกิจด้วยตัวเองโดยในทุกคณะ ทุกสาขาวิชา นอกจากนักศึกษาจะไก้เรียนรู้ทฤษฎีและการปฏิบัติเพื่อนำไปประกอบอาชีพแล้ว ยังปลูกฝังให้มีจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ เปิดโอกาสให้สร้างงานด้วยตัวเอง เพราะการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่รักความเป็นอิสระ มีความทันสมัย ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ดังนั้น นอกเหนือจากงานประจำที่นักศึกษา สามารถทำได้แล้ว นักศึกษายังสามารถสร้างธุรกิจของตนเองได้อีกด้วย
ขณะนี้มหาวิทยาลัยเพิ่มจำนวนหลักสูตรนานาชาติ เพื่อเน้นความเป็นสากลมากขึ้น เพราะในอนาคตเมื่อนักศึกษาจบออกสู่ตลาดแรงงาน ไม่ใช่ทำงานได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่สามารถไปทำงานต่างประเทศได้อีกด้วย จึงอยากให้นักเรียนก่อนการตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัย นอกจากศึกษาหาข้อมูล สถานที่เรียน และตรวจสอบหลักสูตรว่าได้รับการรับรองหรือไม่ ต้องมองตัวเองด้วยว่า อยากเรียนอะไร อยากประกอยอาชีพอะไร ความสามารถในการทำงาน มีทางเลือกได้หลากหลายหรือไม่ ดูความถนัด ความสามารถของตนเอง และความเป็นสากล เพราะเวลาที่เด็กรุ่นใหม่จบการศึกษาจะเป็นช่วงเวลาที่ประเทศมีการขยายตัวมาก งานที่ทำไม่ใช่มีแต่เฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่อาจเป็นงานนอกประเทศ ซึ่งในส่วนของม.กรุงเทพ ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน แต่ทุกสาขาที่เปิดสอนล้วนเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit