นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 กล่าวถึงกรณีจากการที่รัฐบาลและกสทช. ขอความร่วมมือมายังสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ให้งดเผยแพร่รายการประเภทบันเทิง ในช่วง 30 วัน นั้น ทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวีได้ดำเนินการปรับผังมาตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม โดยเน้นการออกอากาศ 3 กลุ่มรายการหลัก คือ ข่าว ได้รวมทีมข่าวบันเทิงมาทำงานเฉพาะกิจ ร่วมกับทีมข่าวหลักเป็น News Room Center เดียวกัน และเพิ่มการนำเสนอข่าวศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทย รวมตลอดติดตามเสนอข่าวของสำนักพระราชวังและรัฐบาลในการเตรียมงานด้านต่างๆ รอบสนามหลวง และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ในขณะที่สถานีฯยังมีละครคุณภาพที่เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวสยาม คือ ละคร "สี่แผ่นดิน" "อยู่กับก๋ง" และ "ตามรอยพ่อ" ซึ่งแต่ละเรื่องจะมีคติสอนใจ และความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ จึงนำมาออกอากาศอีกครั้ง ส่วนการถ่ายทอดสดฟุตบอลจากต่างประเทศก็ยังมีให้ชมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ชมสนใจรับชมรายการทางสถานีเพิ่มมากขึ้น โดยในเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเรตติ้งของสถานีฯขยับมาอยู่ที่ อันดับ 7 ล่าสุดเรตติ้งสัปดาห์แรกของพฤศจิกายนของช่องยังคงเติบโตต่อเนื่องถึง 63% ในขณะที่ผู้ชมทางออนไลน์ของสถานีก็เพิ่มขึ้นจากปกติด้วยเช่นกัน ส่งผลให้คนรุ่นใหม่รู้จักพีพีทีวีมากขึ้น นอกเหนือจากรายการฟุตบอลที่มีฐานผู้ชมที่กว้างและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากวันที่ 14 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ครบ 30 วัน รัฐบาลเปิดโอกาสให้สถานีโทรทัศน์ทุกสถานีกลับเข้าสู่ผังรายการตามปกติ น่าจะทำให้อันดับ เรตติ้งของทุกสถานีมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์พีพีทีวียังคงเน้นกรอบของผังรายการเช่นนี้ไปจนครบ 100 วัน โดยจะเน้นที่รายการและละครที่มีคุณภาพ รวมถึงสารคดีที่ผลิตโดยทีมข่าวและฝ่ายผลิตของสถานีฯ คาดว่าจะสามารถรักษาการเพิ่มขึ้นของผู้ชมอย่างต่อเนื่อง เช่นทุกเดือนที่ผ่านมา
หลังจากละคร "สี่แผ่นดิน" จบ ทางสถานีฯจะนำละคร "รัตนาวดี" ซึ่งถ่ายทำในต่างประเทศทั้งเรื่อง มาออกอากาศเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยของชาวสยามที่เปลี่ยนไป โดยบรรยากาศของละครจะเน้นสถานที่สำคัญๆ ในยุคสมัยรัชกาลที่ 7, 8 และต้นรัชกาลที่ 9 ซึ่งคนไทยนิยมส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ นอกจากนี้สถานีฯยังมีละครไทยที่เคยออกอากาศไปแล้วหลายเรื่อง โดยจะเพิ่มสารคดีในตอนท้าย เพื่อเสริมอรรถรสและความรู้ให้กับผู้ชมจนถึงปลายปี 2559
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit