บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จัดกิจกรรม "Samsung Love and Care" ซึ่งเป็นโครงการระดับภูมิภาคประจำปี ที่สนับสนุนให้พนักงานร่วมกันทำกิจกรรมอาสาเพื่อสังคม สำหรับในปีนี้ โครงการได้เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชนโดยการระดมเทคโนโลยีและทรัพยากรเพื่อช่วยลดช่องว่างทั้งในเรื่องการศึกษาและช่วยบรรเทาปัญหาสังคมต่างๆ ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รวมทั้งในประเทศไทย บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้ดำเนินโครงการเหล่านี้เช่นกันในชื่อโครงการ "Samsung Make a Wish – ซัมซุงสานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง" ซึ่งเดินทางมาถึงโรงเรียนที่ 5 ด้วยความร่วมมือกับ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และคู่ค้าสำคัญบริษัท นครดีซี จำกัด ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยทีมอาสาสมัครกว่า 60 ชีวิตร่วมส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่เด็กนักเรียนและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ณ โรงเรียนวัดทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความมุ่งหวังที่จะสานฝันให้เด็กไทยได้รับโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และมีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่และสะดวกสบายมากขึ้น
โครงการ Samsung Love and Care เปิดโอกาสให้พนักงานจิตอาสาจากทั่วทุกภูมิภาคได้มีส่วนร่วม กิจกรรมในปีนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม 2559 โดยอาสาสมัครจำนวน 56 คนได้ร่วมกันส่งมอบความช่วยเหลือสู่เด็กๆ 2,800 คน ณ ชุมชนท้องถิ่นในกัมพูชาตลอดช่วงระยะเวลา3 วันของกิจกรรม
ไอรีน อึ๊ง รองประธานฝ่ายการตลาดองค์กรของซัมซุงประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียกล่าวว่า "พวกเราชาวซัมซุงมุ่งมั่นโดยเสมอมาที่จะสร้างคุณค่าให้ได้มากกว่าความสำเร็จทางธุรกิจโดยการร่วมคืนสิ่งดีๆ สู่ชุมชน ความสำเร็จและเสียงตอบรับจากเหล่าอาสาสมัครที่ร่วมกิจกรรมอย่างแข็งขันในปีที่แล้ว ทำให้เราตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้มาเยือนกัมพูชาในปีนี้ เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะช่วยสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนได้มากมาย เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นด้วยการเติมเต็มความต้องการของชุมชน และมุ่งเน้นการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเด็กๆ สำหรับพนักงานของเรา นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมกันมอบสิ่งที่ดีสุดจากพวกเราให้กับชุมชนในกัมพูชา"
ในครั้งนี้ พนักงานจิตอาสาของซัมซุงพร้อมด้วยองค์กรพัฒนาเอกชนอย่าง Pour Un Sourire D'enfant (PSE) และ People Improvement Organisation (PIO) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมด้านการศึกษาในแบบอินเตอร์แอคทีฟขึ้นเพื่อเด็กๆ ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นการสานสายใยความสัมพันธ์และนำความสุขมาสู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยอาสาสมัครได้ใช้แท็บเล็ตและแอพสำหรับอุปกรณ์มือถือสร้างความสนิทสนมกับเด็กๆ ผ่านเกมแบบอินเตอร์แอคทิฟเพื่อการเรียนรู้ พร้อมทั้งสอนทักษะเรื่องตัวเลขและการอ่านเขียนให้กับเด็กๆ อาสาสมัครจิตอาสายังได้ร่วมกันปรับปรุงโรงเรียน เช่น ทาสีผนังห้องเรียนและโต๊ะเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้พร้อมให้ความรู้แก่เด็กๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วยวาริท จรัณยานนท์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดองค์กรจากบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้เป็นปีที่สองและยังมีบทบาทในโครงการอาสาพัฒนาในระดับท้องถิ่นอีกหลายโครงการ เช่น โครงการ Make A Wish ที่จัดขึ้นต่อเนื่องในประเทศไทย กล่าวว่า "เป็นประสบการณ์ที่น่าอิ่มเอมใจมากครับ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 3 วัน แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราได้มีส่วนช่วยในครั้งนี้จะต่อยอดให้เด็กๆ เหล่านี้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน แม้ว่าลักษณะภูมิประเทศของเราจะแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่เราก็มีสิ่งที่ต้องพัฒนาคล้ายๆ กันในเรื่องทักษะพื้นฐานด้านการอ่านเขียนและความเป็นอยู่ของเด็กๆ ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนช่วยส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับชุมชน และผมตั้งใจว่าจะเข้าร่วมโครงการนี้อีกในปีหน้าแน่นอน"
นอกจากโครงการ Love and Care แล้ว ซัมซุงยังมีบทบาทในการดำเนินโครงการเพื่อชุมชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในประเทศไทย บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้ดำเนินโครงการ "Samsung Make a Wish – ซัมซุงสานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง" ซึ่งเดินทางมาถึงโรงเรียน ที่ 5 ด้วยความร่วมมือกับ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และคู่ค้าสำคัญบริษัท นครดีซี จำกัด ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยทีมอาสาสมัครกว่า 60 ชีวิตร่วมทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่เด็กนักเรียนและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ณ โรงเรียนวัดทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความมุ่งหวังที่จะสานฝันให้เด็กไทยได้รับโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และมีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่และสะดวกสบายมากขึ้น
สำหรับโครงการ Samsung Make a Wish – ซัมซุง สานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง ณ โรงเรียนวัดทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ ได้แก่คุณครู นักเรียน และชุมชนรอบข้าง ทั้งสิ้น 797 คน หลังจากกิจกรรมครั้งนี้ โครงการยังจะลงพื้นที่ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่เด็กๆ ในพื้นที่ต่างๆ ต่อไป เพื่อสนับสนุนให้น้องๆ เยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกลได้รับความสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit