นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 จังหวัดภูเก็ตเกิดฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต รวม 3 ตำบล ได้แก่ บริเวณหน้าซุปเปอร์มาเก็ตซุปเปอร์ชีปกะรนและวงเวียนกะรน ตำบลกะรน หน้าบริษัท ทีโอที จำกัด ตำบลฉลอง หมู่บ้านเจ้าฟ้า ตำบลวิชิต ปัจจุบันสถานการณ์ กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยทหาร และมูลนิธิอาสาสมัคร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำ ออกจากพื้นที่ พร้อมสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นโดยด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้ (24 พ.ย. 59) และแผ่ปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย. 59) ขณะที่คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดดังกล่าวจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่ราบต่ำริมแม่น้ำ บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นลง โดยมีอุณหภูมิลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น โดยสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวและ จัดทำบัญชีผู้ประสบภัย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาและแจกจ่ายเครื่องกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยหนาวอย่างทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่ เน้นกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กที่ไม่มีผู้อุปการะและผู้มีรายได้น้อย รวมถึงวางมาตรการป้องกันภัยเชิงรุกให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบจากภัยในช่วงฤดูหนาว ทั้งไฟป่า หมอกควัน เพลิงไหม้ในช่วงสภาพอากาศแห้ง อุบัติเหตุทางถนนในช่วงหมอกลงจัด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ สร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป