ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสภาปัญญาสมาพันธ์ และประธานอำนวยการบริหารจัดทำดัชนีประสิทธิผลประเทศไทย (เท่ อินเด็กซ์) แถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อประสิทธิผลภาคเอกชน (Private Sector Effectiveness Index - PVE Index) ประจำไตรมาส 4 ปี 2559 พบว่า ในภาพรวม ประชาชนให้คะแนนภาคเอกชน ร้อยละ 68 สูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน ซึ่งได้ร้อยละ 65.2 อยู่ประมาณร้อยละ 2.8 โดยได้คะแนนเพิ่มขึ้นในทุกปัจจัย ทั้งด้านประสิทธิผลและด้านการดำเนินงาน
ปัจจัยที่ได้คะแนนสูงสุด 3 อันดับ อันดับแรก ผู้ตอบแบบสอบถามพึงพอใจภาคเอกชนสูงสุดในปัจจัยการตอบสนองต่อความต้องการ ด้วยคะแนนสูงถึงร้อยละ 71.9 เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนเล็กน้อย และเป็นปัจจัยที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งทั้ง 4 ไตรมาส ในการสำรวจปี 2559 สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ภาคเอกชนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความคาดหวัง ทั้งในด้านราคา คุณภาพ และความปลอดภัย
รองลงมา ผู้ตอบแบบสอบถามยังคงยอมรับใน ความเป็นมืออาชีพ ของภาคเอกชนอยู่ในระดับสูง โดยในไตรมาสนี้ ได้คะแนน 69.9 สูงกว่าไตรมาสก่อนเล็กน้อย และได้คะแนนสูงเป็นอันดับสอง ตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในการทำงานอย่างมืออาชีพ มีความสามารถในการหาโอกาสทางธุรกิจ และการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีคะแนนอันดับสาม ร้อยละ 67.2 มองว่าภาคเอกชน ใส่ใจต่อผู้บริโภค โดยปัจจัยนี้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนร้อยละ 2.7 (ไตรมาส 3 ร้อยละ 66.4) นับเป็นจุดเด่นอีกประการหนึ่งของภาคเอกชนที่ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า ผู้ประกอบการให้ความสำคัญต่อผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งคุณภาพของสินค้าและบริการ
ส่วนปัจจัยที่ได้คะแนนรั้งท้ายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีของภาคเอกชน ได้แก่ ปัจจัยด้านการรับผิดรับชอบ การปลอดคอร์รัปชั่น และ ความเป็นสากล แม้ว่าในไตรมาส 4 จะได้คะแนนเพิ่มขึ้น แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ประชาชนยังรู้สึกว่า ภาคเอกชนต้องแสดงความรับผิดชอบมากขึ้น มีความโปร่งใส ภายใต้มาตรฐานสากลมากขึ้น
ดัชนีประสิทธิผลในการทำงานของภาคเอกชน (PVE Index) สะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้ของประชาชนว่าภาคเอกชนของไทยสามารถปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนมากน้อยเพียงใด อันจะช่วยให้ภาคเอกชนกลับไปประเมินและปรับปรุงจุดอ่อน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความอยู่รอดขององค์กร เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยรวมต่อไป
สามารถดูภาพข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://drive.google.com/drive/folders/0BwqA72rwpDwfbXYzNE9hUnRhbE0
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit