นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศลาวตอนบนและทะเลจีนใต้ ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส จากนั้นจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือในวันนี้ (25 พ.ย. 59) ทำให้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี จากนั้นจะมีสภาพอากาศเย็นลง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เกษตรกรควรผูกยึดและจัดทำที่กำบัง เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย รวมถึงให้จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น โดยสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาและแจกจ่ายเครื่องกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยหนาวอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ เน้นกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กที่ไม่มีผู้อุปการะ และผู้มีรายได้น้อย รวมถึงวางมาตรการป้องกันภัยเชิงรุกให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบจากภัยในช่วงฤดูหนาว ทั้งไฟป่า หมอกควัน เพลิงไหม้ในช่วงสภาพอากาศแห้ง อุบัติเหตุทางถนนในช่วงหมอกลงจัด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาว
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องกับฝนตกหนักบางแห่ง จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประสานแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมน้ำไหลผ่านบริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสม โดยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit