นางสาววีณา เตชาชัยนิรันดร์ กรรมการและรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดบัญชีอัลฮัจย์ในโครงการจับสลากเงินฝากอัลฮัจย์ เพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ต่อเนื่องติดต่อกันมาเป็นปีที่ 2 โดยปี 2559 ระยะเวลาโครงการฯ ตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 เพื่อเพิ่มโอกาสให้พี่น้องมุสลิม ในการไปร่วมประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาอันสำคัญของประชาคมโลกมุสลิม โดยโครงการดังกล่าวธนาคาร มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มจำนวนบัญชี มุสลิม ตามแผนฟื้นฟูของธนาคาร จำนวนบัญชี และจำนวนเงินฝากที่เป็นบัญชีเงินรับฝากอัลฮัจย์ และบัญชีออมทรัพย์วะดีอะฮ์ แบบไม่มีผลตอบแทน ซึ่งทำให้ลูกค้าได้ฝากเงินกับธนาคารในระยะยาว เป็นการดำรงสภาพคล่องให้กับธนาคาร และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยโครงการฯจัดให้มีการจับสลาก เพื่อมอบเป็นรางวัลสมนาคุณพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีบัญชีดังกล่าว สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ในการจับสลากเพื่อมอบรับรางวัล เป็นแพคเกจ สำหรับลูกค้าเงินฝากฯ ในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ มีจำนวน 7 รางวัล และมีการจับสลากสำรองอีก 7 รางวัล เพื่อทดแทนรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลที่ไม่สามารถไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ ตามเงื่อนไขของโครงการฯกำหนด สำหรับมูลค่ารางวัลๆละ 180,000 บาท โดยมีเงื่อนไขสำหรับลูกค้าเงินฝากอัลฮัจย์ทั้ง 2 ประเภท บัญชีออมทรัพย์วะดีอะฮ์ แบบไม่มีผลตอบแทน รวมทั้งลูกค้ารายเก่าและ ลูกค้ามุสลิมที่เปิดบัญชีใหม่ที่ไม่มีเคยเปิดบัญชีกับธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นต้นไป และสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้ามุสลิมที่ เปิดบัญชีใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดบัญชีกับธนาคาร สำหรับ 2 ประเภทดังกล่าวในช่วงงานเมาลิดกลางฯ วันที่ 30 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 และ ช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ระหว่าง วันที่ 6 มิถุนายน 2559 ถึง วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 จะได้สิทธิ์พิเศษแยกจับอีก 1 รางวัล และสลากสำรองอีก 1 รางวัล รวมรางวัลทั้งสิ้น 8 รางวัล คิดเป็นเงินมูลค่า 1,440,000 บาท ทั้งนี้ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวต้องมียอดเงินฝากเฉลี่ยรายวัน ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาทต่อเดือน และต้องดำรงเงินฝากติดต่อกัน 3 เดือน ธนาคารจึงจะออกสิทธิ์การจับรางวัลให้ จำนวน 1 สิทธิ์ และกรณีลูกค้ามีเงินฝากจำนวนมาก ก็จะมีสิทธิ์การจับสลากรางวัลมากขึ้นด้วยตามเงื่อนไขของธนาคาร
โดยธนาคารได้เรียนเชิญ อาจารย์ อรุณ บุญชม รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการดำเนินรายการและตัดสินฯโครงการส่งเสริมการตลาดและบัญชีอัลฮัจย์ ไอแบงก์ และดร.อณัส อมาตยกุล ประธานที่ปรึกษาธนาคาร ร่วมจับสลากรางวัล พร้อมทั้งผู้แทนจุฬาราชมนตรี อ.สุธรรม บุญมาเลิศ เลขานุการจุฬาราชมนตรี และผู้แทนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงพี่น้องมุสลิม และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ มาร่วมเป็นสักขีพยานในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย โดยผลการจับสลากรางวัล ธนาคารจะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ได้รับรางวัล และจะประกาศรายชื่อบนเว็บไซด์ของธนาคาร www.ibank.co.th โดยลูกค้าจะต้องติดต่อขอรับรางวัลดังกล่าวภายใน 30 วัน หลังจากวันที่มีการจับสลากรางวัล ซึ่งหากไม่มีการติดต่อภายในระยะเวลาที่กำหนด ธนาคารจะให้สิทธิ์กับผู้ที่มีรายชื่อสำรองตามลำดับต่อไป
สำหรับบัญชีเงินฝากอัลฮัจย์ ก่อนเริ่มโครงการฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 ธนาคารมีบัญชีเงินฝากอัลฮัจย์ จำนวน 5,999 บัญชี เป็นเงิน 117.074 ล้านบาท และเมื่อปิดโครงการ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 มีบัญชีเงินฝากอัลฮัจย์ จำนวน 7,811 บัญชี จำนวนเงิน 166.488 ล้านบาท เพิ่มมาทั้งสิ้น 1,812 บัญชี จำนวนเงิน 49.414 ล้านบาท และมีชิ้นส่วนสำหรับผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น จำนวน 345,586 ชิ้น ทั้งนี้ ธนาคารขอแสดงความยินดีกับผู้ที่มีความสามารถที่เป็นผู้โชคดีที่จะได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ทั้ง 8 ท่าน ซึ่งจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ในปี 2560
ส่วนรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลโครงการส่งเสริมการตลาดบัญชีอัลฮัจย์ 8 ท่าน ประกอบด้วย1.นางสุรีรัตน์ นาคนาวา สาขาเดอะไนน์ จังหวัดกรุงเทพฯ 2.นางสาวอามนะ ไขสระ สาขาโรบินสันตรัง จังหวัดตรัง 3.นายเด่น อนันทขาล สาขานครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช 4.มัสยิด ฮารูน สาขาสีลม จังหวัดกรุงเทพฯ 5.มัสยิด ดารุ้ลมูนีร สาขาคลองตัน จังหวัดกรุงเทพฯ 6.นายวายา สุหลง สาขาปัตตานี 7.นางโศระยา โต๊ะหาด สาขาโรบินสันนครศรีธรรมราช 8.นายสาธนา อันนันหนับ สาขาหนองจอก จังหวัดกรุงเทพฯ
และผู้ได้รับรางวัล(สำรอง) จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1.นางเรไร มีนวรานนท์ สาขามีนบุรี จังหวัดกรุงเทพ 2.นางรัชดา ชื่นชม สาขาเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 3.นางดารียา มู่เก็ม สาขาสงขลา จังหวัดสงขลา 4.มัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ สาขาคลองตัน จังหวัดกรุงเทพฯ 5.นางฐิติยา วิรารัตน์ สาขาศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ 6.นายอับดลเลาะ บิลละเตะ สาขาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 7.นายอนีส เพ็ชรทองคำ สาขาบางพลัด จังหวัดกรุงเทพฯ 8.นายมูฮัมหมัดปอซี เปาะมะ สาขาบิ๊กซี ปัตตานี จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวธนาคารจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามุสลิมเพิ่มมากขึ้น นางสาววีณา กล่าวทิ้งท้าย