นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการงานแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพของภาครัฐ คนไทยทุกสิทธิเข้าถึงบริการได้ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเป็นหนึ่งงานในโครงการ "ทำดีที่สุด ถวายเป็นพระราชกุศล" โดยการน้อมนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมาสู่การปฏิบัติ นำไปสู่การพึ่งตนเองทั้งในระดับประเทศ ชุมชนและตนเอง อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อประชาชนคนไทยมาโดยตลอด และพระราชกรณียกิจที่ทรงถือเป็นพระธุระเอาพระราชหฤทัยใส่นับตั้งแต่ต้นราชกาล คือพระราชกรณียกิจด้านแพทย์แผนไทย ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสของเมื่อครั้งเสด็จทรงปลูกต้นโพศรีมหาโพธิ ณ สวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน เมื่อวันที่ 21กรกฎาคม 2523 ความว่า "ต้นไม้เป็นสมุนไพรทั้งสิ้น การเพาะชำ การปลูก และดูแลรักษา กรมป่าไม้ทราบดีรีบไปดำเนินการแทนกรรมการโครงการฯ พื้นที่ที่จะปลูกสมุนไพรตัวอย่างที่เพาะชำสมุนไพร ที่สร้างหลักศิลาจารึก และที่สร้างอาคารสำหรับศึกษาวิจัย จัดนิทรรศการ จัดการศึกษา ฝึกสอนอบรม นั้นให้มีพร้อมด้วย" นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในการริเริ่มการพัฒนาสวนสมุนไพรในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันสามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้
สำหรับการจัดงาน "แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร" มีวัตถุประสงค์ เพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสมีพระชนมายุครบ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ทรงมีพระกรุณาธิคุณพระราชทานพระนาม "สิรินธร" เป็นชื่อวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร รวมทั้งเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะพัฒนางานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมีความก้าวหน้าเกิดประโยชน์ต่อประชาชน
กิจกรรมในงานประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรค บริการหัตถการทางการแพทย์แผนไทย จากแพทย์แผนไทยจากทั่วประเทศกว่า 3,000 คน เป็นครั้งแรกที่รวมตัวกันมากที่สุดเพื่อทำความดี ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการจัดแสดงสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคที่พบบ่อยซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ และขอรับต้นพันธุ์เพื่อนำไปปลูก สมุนไพรหายาก คือ ชองระอาและแก้งขี้พระร่วง การจัดนิทรรศการความก้าวหน้าด้านการเรียนการสอนของแพทย์แผนไทย มีเวทีนำเสนอผลงานวิจัยด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร รวมทั้งนำนักศึกษาแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวทางการรักษาโรคตามหลักการแพทย์แผนไทย จากแพทย์พื้นบ้านรุ่นพ่อ รุ่นแม่ที่มีความเชี่ยวชาญ
ด้านนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองประธานมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก กล่าวถึงการจัดทำสวนสมุนไพร 12กลุ่มโรค ว่า ชาวสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงการน้อมนำศาสตร์พระราชามาสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะความมั่นคงทางสุขภาพที่เป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ในงานนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคตา โรคผิวหนัง โรคระบบทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น โดยในสวนสมุนไพรนอกจากจะมีต้นไม้ มีป้ายชื่อพฤกษศาสตร์ และสรรพคุณที่ถูกต้องแล้ว ยังมีการเรียนรู้และการใช้สมุนไพร เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นำสมุนไพรไปใช้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ภายในงาน มีการนำองค์ความรู้ด้านสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มาเผยแพร่ ผ่านครู และนักศึกษาของวิทยาลัยต่างๆ ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งผลิตบุคลากรทางด้านแพทย์แผนไทยในวิทยาลัย 5 แห่งได้แก่ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ยะลา และชลบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีกาญจนาภิเษก และวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการ และเรียนรู้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพในอนาคต โดยมีการเตรียมงานมากว่า 2 ปี เพื่อนำศาสตร์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะในรูปแบบที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย
ประชาชนผู้สนใจสามารถไปร่วมงานงาน " แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10ธันวาคม 2559 เวลา 08.30 – 20.00 น. ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิริธร จังหวัดพิษณุโลก
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit