มธ. ชู 2 ยุทธศาสตร์ผลิตบัณฑิตยุคใหม่ “เพื่อประชาชนและความยั่งยืน” พร้อมชูนวัตกรรมตอบโจทย์สังคม ตอกย้ำแนวคิดมหาวิทยาลัยยั่งยืน

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ชู 2 ยุทธศาสตร์พัฒนานักศึกษารุ่นใหม่ ผ่านยุทธศาสตร์เพื่อประชาชน และความยั่งยืน ผ่านการหล่อหลอมทักษะความรู้ด้านวิชาการ ทักษะการคิดแก้ปัญหา และจิตอาสาเพื่อประโยชน์ต่อสังคม ตลอดจนสร้างวัฒนธรรมองค์กรร่วม สร้างสรรค์นวัตกรรม งานวิจัย เพื่อแก้ปัญหาสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมีการพัฒนาเนื้อหาวิชาการเพื่อตอบยุทธศาสตร์การพัฒนาดังกล่าว อาทิ การพัฒนาวิชาพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม (TU100) และ วิชาการบริการสังคม (Service Learning) การสร้างบรรยากาศแห่งความยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมพลังงานสะอาดภายในรั้วมหาวิทยาลัย อาทิ โครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารเรียน ฯลฯ ทั้งนี้ มธ. ได้จัดงานธรรมศาสตร์วิชาการและThammasat Open House ภายใต้แนวคิด ธรรมศาสตร์เพื่อประชาชนและความยั่งยืน เพื่อแสดงผลงานทางวิชาการของคณาจารย์และนักศึกษา ที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดแสดงนวัตกรรมไฮไลท์ อาทิ นวัตกรรมรถไฟฟ้าสะเทินน้ำสะเทินบก นวัตกรรมรถบัสคนปั่นไฮบริด พลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมรถเข็นพลังงานไฟฟ้า ฯลฯ กิจกรรมออกบูธนำเสนอหลักสูตรการศึกษาต่อรวมกว่า 280 หลักสูตร และกิจกรรมการสัมผัสชีวิตในมหาวิทยาลัยที่มีความยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี ระหว่างวันนี้ – วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ (อาคารยิมเนเซียม 1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่อยู่เคียงคู่สังคมไทยมาตลอด 82 ปี มุ่งบ่มเพาะและพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้พร้อมด้วยทักษะความรู้ด้านวิชาการ ทักษะการคิดแก้ปัญหา และการมีจิตสาธารณะทำประโยชน์แก่สังคม ผ่านการดำเนินงานใน 2 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ เพื่อประชาชน และ เพื่อความยั่งยืน อันจะนำไปสู่การมีวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน ในแง่ของการนำองค์ความรู้ที่มีมาบูรณาการ สู่การสร้างสรรค์เป็นผลงานวิจัย นวัตกรรม โครงงานวิชาการ หรือการต่อยอดความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาให้กับสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยเสริมทักษะและหล่อหล่อมนักศึกษาให้ครบถ้วนด้วยจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ และมีความเป็นผู้นำแห่งศตวรรษที่ 21 อาทิ วิชาพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม (TU100) และ วิชาการบริการสังคม (Service Learning) ฯลฯ

ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า ขณะที่ยุทธศาสตร์ ด้านความยั่งยืน ได้สะท้อนผ่านโครงการความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ การพัฒนารถไฟฟ้าขนาดเล็ก ร่วมกับบริษัท FOMM Corporation เพื่อยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ผ่านการวิจัย พัฒนา และต่อยอดรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลในเชิงพาณิชย์ การสร้างสภาพแวดล้อมด้านความยั่งยืนแก่นักศึกษา ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารเรียน เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันของศูนย์รังสิต โครงการ Thammasat Climate Action โครงการจักรยานพลังงานสะอาดไบกี้ โครงการรถบริการรับ-ส่ง ภายในมหาวิทยาลัยโดยใช้ก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว โครงการธนาคารขยะ โครงการปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อลดอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม โดยรอบมหาวิทยาลัย ฯลฯ อันเป็นโครงการที่จะช่วยปลุกจิตสำนึกนักศึกษาในการคิดเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศสู่เมืองสีเขียวได้อย่างยั่งยืน

โดยล่าสุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดงานธรรมศาสตร์วิชาการและ Thammasat Open House ขึ้น ภายใต้แนวคิด "ธรรมศาสตร์เพื่อประชาชนและความยั่งยืน" กิจกรรมจัดแสดงผลงานด้านวิชาการและตลาดวิชา ที่มุ่งนำเสนอบทบาทของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในด้านของการเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์ การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ผ่านการนำเสนอผลงานด้านวิชาการ และนวัตกรรมเพื่อประชาชน โดยคณาจารย์และนักศึกษา มหกรรมโครงการบริการสังคม รวมกว่า 380 โครงการ เพื่อมุ่งขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน รวมถึงยังมีกิจกรรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษากว่า 280 หลักสูตร การเรียนแบบ Active Learning และการแสดงจากรุ่นนักศึกษาคณะต่าง ๆ การแสดงผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย ที่มุ่งตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาแก่สังคม อาทิ นวัตกรรมรถไฟฟ้าสะเทินน้ำสะเทินบก นวัตกรรมรถบัสคนปั่นไฮบริด นวัตกรรมรถเข็นพลังงานไฟฟ้า ฯลฯ พร้อมนำเสนอมุมมองต่างๆเกี่ยวกับความยั่งยืนของ มธ. ด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาและการเรียนรู้ มธ. กล่าวเสริมว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีนโยบายในการพัฒนางานวิชาการและงานวิจัย "เพื่อประชาชน" โดยมุ่งบ่มเพาะและปูพื้นฐานให้นักศึกษามีทักษะในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงนอกห้องเรียน โดยที่ผ่านมานอกจากแนวคิดดังกล่าวจะได้รับการสอดแทรกไปในรายวิชาต่างๆ แล้ว มหาวิทยาลัยยังให้นักศึกษา เรียนรู้ใน 2 รายวิชาเพื่อประชาชนและสังคมได้แก่ วิชาพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม (TU 100) รายวิชาที่มุ่งปลูกจิตสำนึก และหน้าที่ความรับผิดชอบของการเป็นพลเมืองที่ดีต่อสังคม ผ่านการทำโครงการรณรงค์ เพื่อให้เกิดการรับรู้และเปลี่ยนแปลงในประเด็นที่สนใจ และ วิชาการบริการสังคม (Service Learning) รายวิชาที่มุ่งหล่อหลอมให้นักศึกษา มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และสามารถบูรณาการทุกองค์ความรู้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม โดยที่ผ่านมา นักศึกษาสามารถสร้างสรรค์โครงงานเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม และโครงงานการบริการสังคมได้เป็นจำนวนกว่า 380 โครงการ อาทิ โครงการคืนลำน้ำ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการรักษาสิทธิมนุษยชน โครงการการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ในชุมชน ผ่านการนำความรู้ไปถ่ายทอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างคุณค่า พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชาวบ้าน อาทิ หมอนหอมเฮิร์บ จากข้าว ขนมอบกรอบไรซ์มี ฯลฯ

ในส่วนของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มธ. กล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งผลักดันมหาวิทยาลัยสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2555 เพื่อ แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้าง "ความยังยืน" ผ่านการรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตในมหาวิทยาลัยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสร้างบรรยากาศแห่งความยั่งยืนภายในรั้วมหาวิทยาลัย อาทิ จักรยานพลังงานสะอาดไบกี้ (Biky) จักรยานพลังงานสะอาด ที่สามารถยืมและคืนที่ใดก็ได้ภายในเวลา30 นาที เพียงใช้บัตรนักศึกษาสแกนที่ตู้ยืม-คืนไบกี้ แก้วน้ำพกพาสะดวก (pocket glass) แก้วน้ำสำหรับให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทุกคนพกติดตัวเพื่อกดน้ำ ณ ตู้น้ำที่จัดเตรียมไว้ เพื่อลดปริมาณขวดพลาสติก และ การใช้พลังงานทางเลือกจากโซลาร์เซลล์ การนำพลังงานสะอาดอย่างแสงอาทิตย์มาปรับใช้ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้นักศึกษาได้สัมผัสการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพสังคมแห่งความยั่งยืน และพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่า ที่พร้อมก้าวออกไปพัฒนาประเทศเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ งานธรรมศาสตร์วิชาการและ Thammasat Open House มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ถึงวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ (อาคารยิมเนเซียม 1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมในวันแรก เป็นจำนวนกว่าหมื่นคน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หมายเลขโทรศัพท์ 02-564-4440 ต่อ 1117 หรือคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ www.tu.ac.th

• ข่าวงานวิจัย
• ข่าวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• ข่าวธรรมศาสตร์
• ข่าวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ
• ข่าวมหาวิทยาลัยยั่งยืน