นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยถึงการขยายการประกอบธุรกิจของ EA เข้าสู่ธุรกิจแบตเตอรี่ หรือ Energy Storage ในครั้งนี้ว่า บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาและติดตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีมานานพอสมควรแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก ทั้งด้านประสิทธิภาพในการเก็บและใช้พลังงานที่สูงขึ้น การนำไปใช้ได้หลากหลายอุตสาหกรรม ความปลอดภัย อายุการใช้งาน ความคุ้มค่าและราคาที่น่าสนใจมากขึ้น บริษัทจึงได้เข้าไปลงทุนในบริษัท Amita Technologies Inc. ประเทศไต้หวัน ในสัดส่วน 35.20% ของทุนชำระแล้ว ด้วยการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนมูลค่าประมาณ 690 ล้านบาท เป็นการเข้าไปแบบเป็นมิตร เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละฝ่าย มาพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานของ EA ซึ่งปัจจุบันฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างการวางแผนงานโดยละเอียด และเมื่อมีความพร้อม ก็จะเปิดเผยแผนดังกล่าวต่อไป
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึง ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,421.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดพิษณุโลก ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟเข้าระบบไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา โดยใน 9 เดือนแรกปีนี้ เป็นครั้งแรกที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากการขายไฟฟ้าสูงกว่า การขายน้ำมันไบโอดีเซล กล่าวคือ มีรายได้จากการขายไฟฟ้า 4,024 ล้านบาท และรายได้จากการขายน้ำมันไบโอดีเซล 3,935 ล้านบาท
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มของธุรกิจในไตรมาส 4/2559 ว่าจากการที่กรมธุรกิจพลังงานได้ออกประกาศให้ปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 5โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 นั้น จะส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของบริษัทฯมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2559 เนื่องด้วยการสิ้นสุดฤดูฝนซึ่งเป็นวงจรปกติของธุรกิจ
สำหรับแผนการลงทุนใน"โครงการหนุมาน" หรือโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ชัยภูมิ กำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ EA นั้น ได้ทำการออกแบบโครงการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนเริ่มลงมือก่อสร้างในต้นปีหน้า โดยโครงการนี้มีมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 20,000 ล้านบาท มีกำหนดแล้วเสร็จกลางปี 2561 เมื่อสร้างเสร็จ จะส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของ EA ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์