นายภุชพงค์ โนดไธสง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดค่ายฝึกอบรมวิทยากรแกนนำลูกเสือไซเบอร์ กิจกรรมสร้างลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cyber Scout) ภายใต้โครงการการเตรียมความพร้อมภาคประชาชนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล มาอย่างต่อเนื่องซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ 1) เพื่อพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรลูกเสือไซเบอร์ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศและโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 2) เพื่ออบรมแกนนำลูกเสือ
ไซเบอร์ (ครูลูกเสือและ/หรือครูคอมพิวเตอร์) แก่สถานศึกษาที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไว้แล้ว 3) เพื่อขยายเครือข่ายลูกเสือไซเบอร์ให้เป็นเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง สนับสนุนความรักความสามัคคีภายในชาติ เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เสมือนตัวแทนของสังคมไทยที่จะเป็นผู้เฝ้าระวังหรือสอดส่องพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ 4) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับลูกเสือไซเบอร์ในการใช้งานด้าน ICT และรองรับการเข้าสู่สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับลูกเสือไซเบอร์มีภารกิจที่สำคัญระดับชาติ เพราะทำหน้าที่ในการสอดส่องดูแลภัยอันตรายบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศและสถาบันชาติ ส่วนวิทยากรแกนนำฯ จะทำหน้าที่ในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ให้กับนักเรียนที่จะเป็นอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันสำคัญที่จะป้องกันมิให้นักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ ได้รับผลกระทบจากภัยอันเกิดจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนั้นยังสามารถช่วยแนะนำเพื่อนๆ ผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิด ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธี มีคุณธรรม จริยธรรม อันจะนำมาซึ่งสังคมออนไลน์ที่สะอาดและสร้างสรรค์ในอนาคต
นายภุชพงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งหน่วยลูกเสือไซเบอร์ประจำสถานศึกษาทั่วประเทศแล้วจำนวนทั้งสิ้น 388 แห่ง สำหรับค่ายฝึกอบรมวิทยากรแกนนำลูกเสือไซเบอร์ในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25พฤศจิกายน 2559 โดยมีครู อาจารย์ จากสถานศึกษาเข้าร่วมรับการฝึกอบรมจำนวนทั้งสิ้น 96 แห่ง ประกอบด้วย
ครู – อาจารย์ รวม 154 คน โดยการฝึกอบรมฯ มีการผสมผสานและการเสริมสร้างกิจกรรมลูกเสือตามความเหมาะสม อาทิ การเสริมสร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะและการทำงานเป็นทีม เพื่อสนับสนุนความรักความสามัคคีภายในชาติเทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ผสานกับการอบรม ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรับการฝึกอบรมได้เรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับระบบเครือข่าย การใช้งานระบบความปลอดภัย การป้องกันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต และกฎหมาย เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ ให้เป็นเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็งเสมือนตัวแทนของสังคมไทยที่จะเป็นผู้เฝ้าระวังหรือสอดส่องพฤติกรรม ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เพื่อการขยายผลสู่เด็ก เยาวชน นักเรียนในสถานศึกษา ตลอดจนการรับรู้ในบทบาทหน้าที่ และเข้าใจถึงแนวทางการขยายผลในการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ต่อไป"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit