นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 8 เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ "คุยข่าวเช้า" ซึ่งเป็นต้นแบบรายการข่าวช่วงเช้าที่มีเวลาออกอากาศยาวที่สุดในประเทศในปัจจุบัน โดยนำเสนอข่าวครอบคลุมทุกประเด็น เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ได้สร้างสถิติทำเรตติ้งเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ถือเป็นแรงส่งสำคัญทำให้ เรตติ้งกลุ่มรายการข่าวของช่อง 8 ติดอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ประกอบการดิจิตอลทีวีหน้าใหม่ และอันดับ 3 ของประเทศ (เป็นรองเพียงช่อง 7 และช่อง 3 เท่านั้น) ทำให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ขยายเพิ่มรายการข่าวให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมในทุกช่วงเวลาตลอด 4 ช่วงหลักของแต่ละวันได้เดินมาถูกทางแล้ว
โดยล่าสุดผลสำรวจจากเอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ชฯ ระบุว่า รายการ "คุยข่าวเช้า" ของช่อง 8 ซึ่งมีจำนวนชั่วโมงสูงสุดในประเทศขณะนี้ คือ 4 ชั่วโมงเต็มในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.00-09.00 น. และ 4 ชั่วโมงครึ่งในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 05.00-09.30 น. แต่กลับตรึงสายตาคนดูให้อยู่หน้าจอได้เป็นอย่างดี โดยมีเรตติ้งสูงสุดในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ อยู่ที่ 1.28 หรือคิดเป็นคนดูเฉลี่ย 846,206 คน และสูงถึง 2.34 ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือคิดเป็นคนดูเฉลี่ยมากถึง 1,544,706 คน
นอกจากนี้ ยังมีการดึงบุคลากรข่าวเข้ามาเสริมทีม รองรับการเพิ่มข่าวทางด้านเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน และบันเทิงฮอตประเด็นร้อน เพื่อเสริมทัพข่าวทั่วไปและข่าวกีฬาที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้ยิ่งครอบคลุมทุกประเด็นในทุกช่วงเวลาตลอดทั้งวัน ได้แก่ ข่าวเด่นเที่ยง ทุกวัน เวลา 12.00-13.00 น., คุยข่าวเย็น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-18.00 น. และ ข่าวเด่นรอบวัน ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 21.05-21.45 น. และวันศุกร์ เวลา 22.45-23.15 น. อีกทั้งเพิ่มรายการวาไรตี้ข่าวรูปแบบใหม่ คือ สะดุดข่าวเด็ด เป็นการนำเสนอข่าวสายฮาทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะข่าวการเมือง, ข่าวกีฬา หรือข่าวภูมิภาค ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00-23.00 น. ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่ช่วยเพิ่มการเติบโตของเรตติ้งกลุ่มรายการข่าวอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ช่อง 8 กำลังเปิดเกมรุกลำดับต่อไป คือ ลุยขยายฐานผู้ชมกลุ่มนี้ให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว โดยนับจากนี้จะมองรายการข่าวเสมือนแบรนด์สินค้าที่จะใช้กลยุทธ์มุ่งสร้างเนื้อหารายการข่าวตอกย้ำแนวคิด "ดูง่ายและเข้าใจง่าย" สามารถรับชมได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้เกิดการรู้จักและจดจำแบรนด์รายการข่าวในวงกว้างยิ่งๆ ขึ้น เพื่อเป็นแรงส่งสำคัญผลักดันให้เรตติ้งโดยรวมของช่องมีการเติบโตอย่างมีนัยยะ ขณะเดียวกันสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับทางสถานีด้วย
"เรามองว่าการปั้นแบรนด์รายการข่าวเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ควรทำ ยิ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงติดท็อปทรีอยู่แล้วควรต่อยอด เพราะย่อมมีแต้มต่อย่นระยะทางการทำงานให้เดินไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น เมื่อแบรนด์แข็งแกร่งก็จะเข้าสู่กลไกการตลาดโดยธรรมชาติ คือ เริ่มมีคนรู้จัก จำได้ พูดถึง แล้วก็บอกต่อ ในฐานกลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนประจำอยู่แล้วเกิดลอยัลตี้ มีความผูกพันเปิดแช่ไว้เป็นเพื่อน ขณะที่ฟากฐานกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามานำมาซึ่งเรตติ้งที่เพิ่มและเสถียรขึ้น ทั้งหมดนี้จะสะท้อนกลับไปยังอัตราการใช้เวลาโฆษณาทยอยเพิ่มขึ้น และถึงจุดที่ใช้เวลาจนเต็มก็สามารถขยับราคาขึ้นตามเรตติ้งที่โตได้" นางพรพรรณ กล่าว
อย่างไรก็ดี มองภาพรวมการแข่งขันดิจิตอลทีวีในวันนี้ นอกจากมีละคร, วาไรตี้ และกีฬาจะเป็นหัวหอกหลักเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำให้แก่ช่องแล้ว ข่าวก็เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่สามารถใช้ช่วงชิงสายตาผู้ชมดันเรตติ้งพุ่งได้ดีเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาแม้กลุ่มผู้ประกอบการดิจิตอลทีวีหน้าใหม่จะมีประสบการณ์คร่ำหวอดในแวดวงบันเทิง แต่ก็ใช้รายการข่าวเป็นแรงส่งสำคัญผลักดันให้เรตติ้งของช่องเติบโตได้อย่างน่าสนใจ โดยปัจจุบันเทรนด์การรับชมรายการข่าวแตกต่างจากในอดีตที่รับชมเพื่อติดตามข่าวสารบ้านเมือง แต่ทุกวันนี้รับชมเพื่อความบันเทิงควบคู่ไปด้วย โดยรายการข่าวช่วงเช้าได้รับนิยมจากผู้ชมสูงสุด ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มมองเป็นบิ๊กแบงคอนเทนต์ ที่น่ากระโดดเข้ามาแลกหมัดออกอาวุธดึงดูดสายตาผู้ชม สอดคล้องกับที่กลุ่มเอเยนซี่หันมาสนใจแพลนงบซื้อสื่อในรายการกลุ่มนี้เช่นกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit