คุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมีความสนพระราชหฤทัยภาษาจีนและวัฒนธรรมจีน ทรงมีความรู้แตกฉาน ไม่เพียงแต่มีพระราชดำรัสภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วเท่านั้น หากยังทรงพระราชนิพนธ์ซึ่งเกี่ยวกับประเทศจีน ภาษาจีน และวัฒนธรรมจีนไว้จำนวนมาก พระราชนิพนธ์ทุกเล่มของพระองค์ มีส่วนช่วยให้คนไทยมีความเข้าใจในประเทศจีนและคนจีนรวมทั้งวัฒนธรรมจีนมากขึ้น และสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์ประชาชนจีน ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระสมัญญานาม"ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน" เมื่อปี 2547 อีกทั้งในปี 2552 ชาวจีน 2 ล้านคน ลงคะแนนผ่านอินเทอร์เน็ตให้พระองค์ เป็นมิตรที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่สองของชาวจีนด้วย
ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท นานมี กล่าวว่าพระอัจริยภาพด้านภาษาจีนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจแก่เด็กและเยาวชนไทยให้หันมาสนใจภาษาจีนเป็นอย่างมาก จนปัจจุบันการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีผู้ที่กำลังเรียนภาษาจีนในประเทศไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะภาษาจีนเป็นภาษาที่มีการใช้ในการสื่อสารของคนทั่งโลกกว่าพันล้านคน อีกทั้งประเทศจีนได้ก้าวสู่ยุคใหม่ มีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคม ภาษาจีนเป็นภาษาที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อคนจำนวนมากในโลกใบนี้
ด้านนาย จาง ตง เฮ่า อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานประเทศหนึ่งในโลก อักษรจีนมีความเป็นมาและการคิดค้นมากกว่า 50,000 ปี อีกทั้งภาษาจีนยังเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมื่อประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมั่นคงก็ยิ่งทำให้ภาษาจีนมีบทบาทและสร้างคุณค่าแก่คนทั่วโลก ปราชญ์ชาวจีนได้เคยบอกไว้ว่า เราจะเรียนรู้ใครคนหนึ่ง หรือประเทศหนึ่ง ว่าเป็นอย่างไร ให้ดูที่ภาษา หากเรียนรู้ภาษาจะเข้าใจในวัฒนธรรมความเป็นอยู่และความเป็นตัวตนของคนๆนั้นและประเทศนั้นได้ วันนี้ได้มาเห็นเยาวชนไทยเรียนรู้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว รู้สึกประทับใจมาก และหวังว่าเด็กไทยจะเรียนรู้ความเป็นจีนผ่านภาษานี้อย่างลึกซึ้ง ในอนาคตมั่นใจว่าเยาวชนเหล่านี้จะได้นำภาษาจีนไปพัฒนาและต่อยอดความรู้ได้ในอนาคต
ด.ช.กิตติ์นรัตน์ – ด.ช.กิตติ์ธริทธิ์ พรเทพารักษ์ หรือ น้องเจฟฟรี่ และ น้อง โจอี้ สองพี่น้อง อายุ 9 ขวบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ผู้ชนะการประกวดรับรางวัลยอดเยี่ยมระดับชั้นประถมตอนต้น ได้รับถ้วยพระราชทานฯ เล่าว่า วันนี้ร้องเพลงจีนที่ชื่อว่า ชุนเทียนหลี มีเนื้อหาของการต่อสู้ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความพยายามและมุมานะอดทน เช่นเดียวกับการฝึกฝนเรียนรู้ภาษาจีน ก็ต้องใช้เวลาและความพยายาม ทั้งคู่ได้เรียนภาษาจีนมาแล้ว 4 ปี ก่อนจะหาความชำนาญจากการหมั่นฝึกฝน ออกเสียงอยู่เสมอ จะทำให้การเรียนภาษาจีนง่ายขึ้น ซึ่งการเตรียมตัวก่อนมาประกวดใช้เวลาพอสมควรในการทำความเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้ เพื่อให้การร้องเป็นไปได้อย่างมีอารมณ์และความรู้สึก มีการเว้นจังหวะและออกเสียงสูงต่ำ เพื่อสร้างให้ผู้ฟังเกิดความสนใจ
ส่วน ด.ญ.ณัฐกมล ชุติพันธ์เจริญ หรือ น้องนิ้ง อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ผู้ชนะยอดเยี่ยมในระดับประถมศึกษาตอนปลาย ได้รับถ้วยพระราชทานฯ บอกว่า รู้สึกชอบและเรียนภาษาจีน ผูกพันและรักภาษาจีน คิดว่าการที่เรียนรู้ได้หลายๆภาษาจะทำให้ได้เปรียบกว่าคนอื่น ทำให้พูดคุยติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ทั่วโลกได้ ตนจึงฝึกหัด ทั้งเขียนและพูด วันนี้เลือกการแสดงการร้องเพลงที่มีชื่อว่า ซานฉุนเทียนถาว ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก โดยใช้เครื่องดนตรีไวโอลินมาประยุกต์ให้เข้ากับบทเพลง ในอนาคตอยากเป็นนักร้อง-พิธีกร และคิดว่าการรู้หลายภาษาโดยเฉพาะภาษาจีน จะทำให้เอื้อประโยชน์ในการทำงานในอนาคต