นายสวี เต๋อจื้อ ประธานหอการค้า การนำเข้าและส่งออกแห่งมณฑลกวางตุ้งกล่าวถึง"งานแสดงสุดยอดสินค้าคุณภาพจากประเทศจีนครั้งที่ 7 (The 7th China Products Show 2016) และ งานแสดงสินค้าอาเซียน-จีนครั้งที่6 ( The 6th China-ASEAN (Thailand) Commodity Fair) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพคเมืองทองธานีที่ผ่านมา ว่า ภาครัฐและเอกชนจีนได้จัดทั้ง 2 งานดังกล่าวขึ้นในเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องโดยนำสินค้าคุณภาพจากมณฑลกวางตุ้ง ตลอดจนมณฑลและเมืองอื่นๆ จากทั่วประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการจัดงานคือเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและจีนที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการเมือง โดยมุ่งหวังให้งานในครั้งนี้สามารถกระชับความสัมพันธ์อันดีนี้ให้แน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จีนมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีฐานการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มั่นคง โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าจะสามารถต่อยอดการตลาดได้ จึงเลือกประเทศไทยเป็นฐานการตลาดที่สำคัญเพื่อเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ๆ ให้กับสินค้าจีนในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกันประเทศไทยยังมีศักยภาพที่น่าสนใจในการด้านการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบาย มีการสัญจรที่หลากหลาย และมีช่องทางการค้าที่น่าสนใจซึ่งการจัดงานปีนี้ เราได้จัดพื้นที่แสดงสินค้า 8,000 ตารางเมตรประกอบด้วยบูธแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการชั้นนำของจีนกว่า 400 รายมีสินค้าที่เป็นไฮไลท์คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คัดสรรและได้รับการรับรองคุณภาพจากเมืองชุ่นเต๋อ เมืองจ๋งซาน รวมทั้งสินค้าคุณภาพในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆได้แก่เครื่องจักรอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลอุปกรณ์และเครื่องมือก่อสร้างเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ในครัวเรือนเครื่องหนัง-เครื่องแต่งกายของขวัญ-ของชำร่วยสินค้าไลฟ์สไตล์และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆเป็นต้นซึ่งมาจากหลากหลายเมือง มณฑล เช่น มณฑลกวางตุ้ง มณฑลอานฮุยนครเซี่ยงไฮ้ นครปักกิ่ง มณฑลเหลียวหนิง มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลเสฉวน เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาทางการตลาดและการค้าจากกูรูด้านการค้าอาเซียนกิจกรรมการแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมด้านการค้ารวมทั้งการจับคู่เจรจาธุรกิจสรุปตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน มีผู้ร่วมชมงานทั้งสิ้นกว่า 10,000 คน ส่งผลให้บรรยากาศของงานคึกคัก และถือว่าการจัดงานปีนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
"เรามุ่งหวังที่จะร่วมผลักดันให้การค้าไทย-จีนมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆทั้งในปัจจุบันและอนาคตซึ่งจะส่งผลให้สินค้าจีนสามารถขยายตลาดในภูมิภาคนี้ได้มากขึ้นด้วยและจากการจัดงานที่ผ่านๆมาพบว่าในแต่ละปีมีมูลค่าจากการจัดงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย14% โดยเราให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าที่ได้ขยายตลาดออกไปแล้วทั้งในแง่คุณภาพและกลยุทธ์ในการเพิ่มมูลค่าหรือทำการตลาดให้มากขึ้นอีกทั้งยังมุ่งหมายที่จะจัดงานในปีต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งเวทีสำหรับผู้ประกอบการจีนและผู้ประกอบการไทยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลตลอดจนการสร้างโอกาสทางค้าระหว่างกัน"
ด้านนางสาวเหอ ฉีจวิน รองผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมืองซุ่นเต๋อ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศจีนได้วางนโยบายทางการค้าคือการเปิดเส้นทางสายไหมเส้นทางใหม่และเส้นทางสายไหมทางทะเลตามหลักการหรือแนวทางของผู้นำประเทศจีนซึ่งเราได้มองเห็นถึงศักยภาพของเมืองไทยในการขยายตลาดสินค้าจีนและมีความสอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว
"ในปีนี้เรามีบริษัทชั้นนำจากมณฑลต่างๆของจีนได้แก่กวางตุ้งฝูเจี้ยน เจ้อเจียง เจียงซู หูเป่ย ฉงชิ่ง เสฉวน ยูนนาน และอู่ฮั่น นำสินค้าคุณภาพมาร่วมแสดงเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยส่วนไฮไลท์ของงานคือได้ร่วมกับสมาคมของใช้ในบ้านเมืองซุ่นเต๋อนำบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากเมืองซุ่นเต๋อเข้าร่วมถึง 43 รายซึ่งเมืองซุ่นเต๋อถือเป็นฐานผลิตสินค้ากลุ่มต่างๆที่สำคัญโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่สามารถผลิตสินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศตู้เย็นเครื่องทำน้ำอุ่นได้มากเป็นอันดับหนึ่งของจีนสินค้าจากเมืองซุ่นเต๋อนับว่าได้รับความนิยมและความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างสูงรวมทั้งมีบริษัทในประเทศจีนและต่างประเทศได้ใช้เมืองซุ่นเต๋อเป็นฐานผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆมากมายโดยมีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นสินค้าหลักดังนั้นการที่สินค้าจากเมืองซุ่นเต๋อสามารถขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศจีนและเป็นสินค้าที่มีคุณภาพนับเป็นความโดดเด่นของซุ่นเต๋อที่ได้สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าคุณภาพของจีนในตลาดอื่นๆได้เป็นอย่างดีซึ่งเราเชื่อมั่นและคาดหวังว่าสินค้าที่ซุ่นเต๋อผลิตออกมาจะเป็นที่พอใจของตลาดและเหมาะสมกับทุกครอบครัว" นางสาวเหอฉีจวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับการค้าการลงทุนระหว่างไทย-จีนโดยสถิติของกรมศุลกากรพบว่ามูลค่าการนำเข้าและการส่งออกระหว่างจีนและไทยช่วงครึ่งปีแรก2559 แตะที่30.76 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยร้อยละ0.01 โดยเป็นตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยสู่ประเทศจีน10.46 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯลดลงร้อยละ7.6 คิดเป็นร้อยละ10 ของยอดรวมการส่งออกของไทยในขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนอยู่ที่20.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ4.2 คิดเป็นร้อยละ21.7 ของยอดรวมการนำเข้าของไทยโดยมียางพลาสติกและเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าสำคัญของการนำเข้าและส่งออกซึ่งไทยส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปยังประเทศจีนร้อยละ27.7 และร้อยละ23.7 ของยอดรวมการส่งออกของไทยสู่ประเทศจีนขณะที่ตัวเลขการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนสูงถึง9.86 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือคิดเป็นร้อยละ48.6 ของยอดรวมการนำเข้าของไทยจากประเทศจีนนอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากจีนได้แก่โลหะและผลิตภัณฑ์พลาสติก-ยางสิ่งทอและวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เคมี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit