นายแดเนียล ฟริส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ ยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อมูลในรายงานดังกล่าว เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาหุ่นยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะการขจัดความยุ่งยากซับซ้อนในอดีตที่มนุษย์ต้องประสบเมื่อใช้งานหุ่นยนต์หรือการพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีราคาถูกลง"
"ปัจจุบัน หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ ของยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ ถูกใช้งานอยู่ทั่วโลกแล้วกว่า 10,000 ตัว ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหุ่นยนต์ประเภทนี้ที่กำลังเข้ามาพลิกโฉมเทคโนโลยีด้านออโตเมชั่น เราช่วยให้องค์กรขนาดเล็กและกลางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกได้โดยการที่หุ่นยนต์ของเรามีระยะเวลาการคืนทุนเร็วที่สุดในอุตสาหกรรม"
"สมาพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (ไอเอฟอาร์) ได้ทำนายว่า อุตสาหกรรมที่จะนำหุ่นยนต์มาทำงานร่วมกับมนุษย์มาใช้เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล ซึ่งล้วนเป็นภาคอุตสาหกรรมสำคัญของภูมิภาคเอชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญของยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์"
นายฟริส กล่าวว่า "ปัจจุบัน หุ่นยนต์ของเราถูกนำไปใช้งานในสายการผลิตยานยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยทำงานควบคู่กับพนักงานในโรงงาน และช่วยผ่อนแรงของพวกเค้าในงานหยิบจับสิ่งของซ้ำๆ ที่ก่อให้เกิดความเมื่อยล้าและก่อปัญหากับสรีระ เรามีตัวอย่างกรณีศึกษาว่าหุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์สามารถเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการฉีดขึ้นรูปได้ถึง 4 เท่า ได้อย่างไร และหุ่นยนต์แขนกลตั้งโต๊ะรุ่น UR3 สามารถใช้ในการประกอบชิ้นส่วนเล็กๆ ที่มีน้ำหนักเบา อาทิ การหยิบจับแผงวงจร ได้อย่างไร"
สมาพันธ์ ไอเอฟอาร์ ยังคาดการณ์ว่าตลาดหุ่นยนต์จะเติบโตต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย โดยรายงานล่าสุดระบุว่าปริมาณซัพพลายของหุ่นยนต์เติบโตขึ้นถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ ในขณะที่ มีการคาดการณ์ว่าการติดตั้งหุ่นยนต์จะเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ โดยประเทศจีนจะเป็นตลาดหลักที่ผลักดันให้ตลาดหุ่นยนต์ของโลกเติบโตโดยคาดว่าจะมีปริมาณการติดตั้งใช้งานหุ่นยนต์ในประเทศจีนเป็นสัดส่วนถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2562
"เอเชียเป็นตลาดสำคัญของเรา เราเปิดบริษัทสาขาที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2556 และแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ที่ลูกค้าใช้งานหุ่นยนต์ของเราอยู่เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์และทดแทนการใช้แรงงานคนในการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ ซึ่งหลายโรงงานประสบปัญหาแรงงานประเภทนี้หายาก"
นายฟริส ยังกล่าวว่าความต้องการสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคทั่วโลกผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรมและมีคุณภาพสูงให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องผลิตอย่างสม่ำเสมอและมีสินค้าต่อเนื่องยั่งยืน
"เมื่อไม่นานมานี้ ยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ ได้เปิดตัวโชว์รูมออนไลน์เพื่อนำเสนออุปกรณ์ที่ใช้ต่อเข้ากับข้อมือหุ่นยนต์สำหรับงานประเภทต่างๆ รวมทั้ง ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมจากกลุ่มนักพัฒนาบุคคลที่สามซึ่งพัฒนาอุปกรณ์ให้เข้ากับระบบนิเวศของยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ และทำงานเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยมกับหุ่นยนต์ของเรา โชว์รูมนี้ช่วยให้ นักวางระบบ ผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าของบริษัทมีความเข้าใจในการทำงานของหุ่นยนต์เป็นอย่างดีและมีความพร้อมในการใช้งานหุ่นยนต์ได้ทันทีที่ติดตั้งหุ่นยนต์ตัวต่อไปจะเสร็จ สมบูรณ์"นายฟริส กล่าว
นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้ของยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ (UR Academy) แห่งใหม่ ยังช่วยส่งเสริมตลาดของ ยูนิเวอร์ซอล โรบอตส์ โดยเปิดสอนผ่านระบบอี-เลิร์นนิ่งเกี่ยวกับโปรแกรมพื้นฐานของหุ่นยนต์ ได้แก่ การต่ออุปกรณ์เข้ากับข้อมือหุ่นยนต์ การเชื่อมต่อระบบ I/Os เพื่อสื่อสารกับอุปกรณ์ภายนอกและการติดตั้งโซนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่าการริเริ่มศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนยุคอินดัสตรี้ 4.0
นายฟริส กล่าวว่า "นับเป็นประวัติการณ์ที่มีโมดูลการสอนที่ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงและเป็นการเรียนแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีไลเซนส์เพื่อสมัครเรียน ศูนย์การเรียนรู้ของเราเป็นทูลส์สำคัญซึ่งช่วยให้เราส่งผ่านความรู้สู่ตลาดว่าเทคโนโลยีสามารถตอบรับความท้าทายทางธุรกิจได้อย่างไร และเนื่องจากภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางในด้านการผลิตของโลก การให้ความรู้กับผู้ใช้งานหุ่นยนต์และโปรแกรมเมอร์ในอนาคตเสียแต่ตอนนี้เพื่อเชื่อมต่อช่องว่างต่างๆ จึงนับเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit