วธ.เตรียมจัดนิทรรศการยิ่งใหญ่ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” เปิดเข้าชม 28 ต.ค.นี้

25 Oct 2016
วธ.เตรียมจัดนิทรรศการยิ่งใหญ่ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์" เปิดเข้าชม 28 ต.ค.นี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมเปิดให้ชมพิพิธภัณฑ์ฯ-โรงราชรถ ให้ชมฟรี ส่วนภูมิภาคประสานผู้ว่าฯ วัฒนธรรมจังหวัด จัดนิทรรศการตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) รวบรวมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจากประชาชน สื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆ เพื่อบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำ "พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ที่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา ให้ วธ.นำมาจัดทำหนังสือ "จดหมายเหตุฉบับประชาชน"และสารคดี "ธ ทรงสถิตในดวงใจไทยทุกคน" เพื่อบันทึกเหตุการณ์สำคัญยิ่งของประเทศและเผยแพร่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ส่งภาพนิ่งมาแล้วจากทั่วประเทศกว่า 18,000 ภาพ และภาพวีดิโอ 53 คลิป (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2559 ) แล้วนั้น

นายวีระ กล่าวต่อไปว่า วธ. จะนำภาพที่มีประชาชนส่งมาจัดแสดงนิทรรศการอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายใต้ชื่อ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์" โดยส่วนกลาง วธ.ร่วมมือกับสมาคมถ่ายภาพต่างๆ ในประเทศไทยและช่างภาพจิตอาสานำภาพถ่ายมาจัดนิทรรศการนำเสนอภาพทรงจำอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ชม โดยจะจัดขึ้น 2 ครั้ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ดังนี้ ครั้งที่ 1 ครบรอบพิธีบำเพ็ญกุศล 15 วัน ปัณรสมวาร (ปัน-นะ-ระ-สะ-มะ-วาน) ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2559 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น. นิทรรศการประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 1.นิทรรศการที่แสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทย โดยมีการจัดฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 2.นิทรรศการที่เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.นิทรรศการภาพถ่ายที่ประชาชนส่งเข้ามาขณะนี้กว่า 18,000 ภาพ คัดเลือกให้เหลือ 89 ภาพมาจัดแสดง ส่วนภาพอื่นๆจะจัดแสดงผ่านจอโทรทัศน์เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดที่ประชาชนส่งเข้ามาด้วย

นอกจากนี้จะมีการคัดเลือกภาพของช่างภาพที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย 9 ภาพ โดยจะนำทั้ง 9 ภาพ มาจัดพิมพ์เป็นโปสการ์ด ภาพละ 100,000 ภาพ เพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมชมนิทรรศการ โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 15.30 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และในโอกาสนี้มีการเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงราชรถ ให้ประชาชนได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนการจัดนิทรรศการภาพถ่าย ครั้งที่ 2 ครบรอบพิธีบำเพ็ญกุศล 50 วัน ปัญญาสมวาร (ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน) เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 -21 มกราคม 2560 โดยจะเป็นการแสดงภาพถ่ายของศิลปินแห่งชาติ และช่างภาพมืออาชีพ จำนวน89 คน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชน สื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆยังสามารถส่งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค pic.culture 2559 หรือhttp://www.facebook.com/Pic.Culture2559/และช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ pic.culture หรือ http://line.me/ti/g/TndwjfZf6d โดยผู้ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ต้องระบุวัน เวลา สถานที่ถ่ายภาพ และระบุชื่อผู้ถ่าย พร้อมเบอร์ติดต่อ สอบถามโทร. 02-422-8729 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765

รมว.วธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมในส่วนของภูมิภาค ได้ขอความร่วมมือไปยังจังหวัดและวัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ จัดนิทรรศการ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์" ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 1.นิทรรศการที่เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจและโครงการตามพระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกี่ยวข้องกับด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 2.นิทรรศการภาพเหตุการณ์น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยของพสกนิกรนับตั้งแต่วันเสด็จสวรรคตจนถึงปัจจุบัน โดยภาพของแต่ละจังหวัดนั้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดคัดเลือกภาพเหตุการณ์ของจังหวัดที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ และเชิญผู้ที่เคยถวายงานมาร่วมกิจกรรม และเชิญวิทยากรที่มีความรู้ เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์มาให้ความรู้ในการจัดนิทรรศการ โดยนิทรรศการดังกล่าวจะเคลื่อนที่ไปจัดในพื้นที่อื่นๆ เช่น ในอำเภอต่างๆของจังหวัดด้วย

อย่างไรก็ตาม ในบริเวณที่จัดนิทรรศการสามารถจัดกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ ฉายภาพยนตร์ สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ สารคดีเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรครั้งแรกใน 4 ภูมิภาค (ที่หอภาพยนตร์ส่งลิงค์ให้ดาวน์โหลดแล้ว) สารคดีหรือเพลงพระราชนิพนธ์ หรือสื่ออื่นๆ ที่เหมาะสม เชิญผู้ที่เคยร่วมถวายงานมาร่วมกิจกรรมในบริเวณที่จัดนิทรรศการ และนำเสนอโครงการตามพระราชดำริหรือการนำเศรษฐกิจพอเพียงไป ใช้ในพื้นที่ เป็นต้น