ด้าน นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากระยะนี้ประเทศไทย ได้เกิดสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน ฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังและเปียกชื้นในทุกภาคของประเทศไทย ส่งผลต่อสุขภาพสัตว์โดยตรง ทำให้สัตว์ปีกอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันต่ำลง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ จึงเน้นย้ำให้เกษตรกรให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพสัตว์ปีก เฝ้าระวังทางอาการอย่างใกล้ชิด โดยดูแลการจัดการโรงเรือน ให้มีหลังคาป้องกันฝน ลม ได้เป็นอย่างดี มีวัสดุปูรองโรงเรือน จัดเตรียมน้ำสะอาด อาหารสัตว์ รวมถึงเวชภัณฑ์ต่างๆ เช่น วิตามิน ให้เพียงพอ นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดโรงเรือนและพ่นทำลายเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงป้องกันโรคเข้าสู่ฟาร์มหรือโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ปีก โดยการงดการนำเข้าสัตว์เข้ามาเลี้ยงใหม่ จากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคในสัตว์ปีก เข้มงวดการจัดการเพื่อป้องกันโรคเข้าฟาร์ม งดให้บุคคลภายนอกเข้าไปในฟาร์ม หากมีความจำเป็น ต้องเปลี่ยนรองเท้าบูทที่ใช้เฉพาะภายในฟาร์มและเดินผ่านอ่างน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนเข้าโรงเรือน หากเป็นโรงเรือนแบบเปิดจะต้องมีตาข่ายป้องกันสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค เช่น นก หนู แมว ฯลฯ ห้ามยานพาหนะทุกชนิดเข้าไปในฟาร์มโดยเด็ดขาด หากมีความจำเป็นต้องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและเลือกซื้ออาหารสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ มั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้ามาในฟาร์ม
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก หากพบเห็นสัตว์ปีกป่วยตายอย่างผิดปกติ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ อย่านำไปแจกจำหน่าย หรือนำไปประกอบอาหารอย่างเด็ดขาด และสามารถแจ้งเบาะแสให้กับอาสาปศุสัตว์ ปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร 0-9630-11946 เพื่อที่ดำเนินการควบคุม ป้องกันโรคไม่ให้แพร่กระจายออกไปได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนไม่นำสัตว์ที่ตายโยนทิ้งน้ำ ให้ฝังหรือเผาตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่