รูปภาพ: http://photos.prnasia.com/prnvar/20161027/0861611224
ไฮเซนส์เป็นบริษัทสัญชาติจีนรายแรกในรอบ 56 ปีที่เป็นผู้สนับสนุนของ UEFA โดยรับบทเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 และด้วยเหตุนี้ ไฮเซนส์จึงได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกในฐานะแบรนด์โทรทัศน์อันดับ 1 ของจีน โดยธุรกิจทีวีของไฮเซนส์ครองส่วนแบ่งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในตลาดจีนมายาวนานถึง 13 ปีติดต่อกัน นอกจากนั้นยังเป็นแบรนด์ทีวีที่มียอดขายสูงสุดในแอฟริกาใต้และออสเตรเลียในปีนี้ สำหรับธุรกิจ B2C ของไฮเซนส์นั้นครอบคลุมถึงโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องปรับอาหาศ และอีกมากมาย
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของไฮเซนส์ในธุรกิจ B2B ยังไม่เป็นที่รับรู้มากนักหากเทียบกับธุรกิจ B2C โดยธุรกิจการสื่อสารเชิงแสง (Optical Communication) ของไฮเซนส์ครองอันดับ 1 ในจีน และเครื่องรับสัญญาณเชิงแสง (Optical Receiver) ของไฮเซนส์ก็อยู่ในอันดับต้นๆของโลกมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ ระบบขนส่งอัจฉริยะของไฮเซนส์ก็ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในตลาดจีน 7 ปีติดต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงปี 2555-2558 ไฮเซนส์ยังชนะการประมูลโครงการสร้างระบบขนส่งอัจฉริยะมากถึง 42% จากทั้งหมดในประเทศ โดยแต่ละโครงการมีมูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน นอกจากนี้ ไฮเซนส์ยังพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการผ่าตัดและระบบจอแสดงผลการผ่าตัดอัจฉริยะ ขณะที่ระบบนำทางเพื่อช่วยในการผ่าตัดก็ก้าวสู่ความล้ำสมัยในระดับสากลภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น และหากพูดถึงส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แล้ว ไฮเซนส์ใช้เวลา 14 ปีในการพัฒนาตนเองจนก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ในประเทศจีน โดยได้รับอานิสงส์จากเทคโนโลยี VRF ชั้นนำระดับโลกของไฮเซนส์เอง
อนึ่ง ธุรกิจ B2B ที่เฟื่องฟูนั้น แสดงให้เห็นว่าไฮเซนส์ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทว่ายังเป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงอีกด้วย
สำหรับอนาคตนั้น ไฮเซนส์จะใช้เทคโนโลยีของตนเองในการเชื่อมโยงทุกชุมชนด้วยผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสารและผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม รวมถึงให้บริการหลังการขายครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่
ธุรกิจ B2B ของไฮเซนส์จะเดินหน้ารุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจโทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศที่มีอยู่เดิมทั่วโลก
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20161027/0861611224
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit