การระดมทุนขั้น Series B นี้ นำโดยเซียงเหอแคปปิตัล (Xianghe Capital) ซึ่งเป็น Venture Capitalในกรุงปักกิ่ง ก่อตั้งโดยนายเฮซอง ทัง อดีตผู้บริหารของบริษัท Baidu M&A ร่วมด้วยแบล็คโฮลแคปปิตัล (Blackhole Capital) และนักลงทุนรายเดิมอย่างมายด์เวิร์คส์เวนเจอร์ส (MindWorks Ventures), คริสตัลสตรีม (Crystal Stream) รวมถึงนักลงทุนจากประเทศไทย บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) การลงทุนรอบนี้ได้เม็ดเงินมากกว่าการระดมทุน 3 รอบที่ผ่านมา ทำให้ลาล่ามูฟได้รับเงินทุนรวมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มรวมแล้ว 60 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากเงินลงทุนดังกล่าว ทำให้ลาล่ามูฟขยายการให้บริการไปยังเมืองต่างๆในทวีปเอเชียอีก 60 เมืองภายในสิ้นปีพ.ศ. 2560 ตามที่วางแผนไว้ และในปัจจุบัน ทวีปเอเชีย เป็นพื้นที่ที่ลาล่ามูฟให้บริการครอบคลุมมากที่สุด ช่วยผู้ใช้บริการเชื่อมต่อกับคนขับรถขนส่งกว่า 500,000 ราย ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ง่ายๆ
"ตลาดโลจิสติกส์นับว่าเป็นตลาดใหญ่ โดยมีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในประเทศจีน และคิดเป็น 27% ของ GDP ในบางประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังถือเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างใหม่ในยุคของอินเตอร์เน็ตบนมือถือ" นายชิง เชา ผู้ก่อตั้งและ CEO ของลาล่ามูฟกล่าว "ผู้ใช้งานของเราต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการช่องทางการส่งของที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น และเราได้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถช่วยจัดส่งของได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง"
"ถึงแม้ว่าวงการขนส่งไม่ได้มีวิวัฒนาการหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหมือนอย่างอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น สื่อสารโทรคมนาคม แต่เราเชื่อว่า นับจากนี้ไป เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและน่าจะมีผู้เล่นที่น่าสนใจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในวงการโลจิสติกส์นี้"
การที่ลาล่ามูฟได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกนั้น เป็นส่วนผลักดันให้ลาล่ามูฟเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปีพ.ศ. 2559 ลาล่ามูฟได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ LINE หนึ่งในแอพพลิเคชั่นบนมือถือชั้นนำของโลกเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่น LINE MAN ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการรับ-ส่งเอกสาร พัสดุ สั่งซื้ออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วฉับไว โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทฯ ก็ได้มีส่วนร่วมกับบริษัทใหญ่ๆอย่าง Google และ IKEA ด้วยเช่นกัน
"ในระยะเวลา 2 ปีที่เราเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ลาล่ามูฟก็ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านแอพพลิเคชั่นให้บริการขนส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ ทั้งจำนวนผู้ใช้งานและพนักงานขับรถของเราก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ นอกจากจะนำไปใช้เพื่อขยายการให้บริการไปยังพื้นที่อื่นๆแล้ว เรายังจะนำไปใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและคิดหาฟีเจอร์และบริการเสริมต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น" นายชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการลาล่ามูฟ ประเทศไทยกล่าวชี้แจง
"ลาล่ามูฟเป็นเคสตัวอย่าง ของการใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาพัฒนาการทำงานของอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีความทันสมัยมากนัก" นายเฮซอง ทัง ผู้ก่อตั้งเซียงเหอแคปปิตัลกล่าว "เราชื่นชมในวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของทั้งคุณชิงและทีมงานของเขา และเชื่อมั่นว่าลาล่ามูฟจะสามารถเติบโตไปได้อีกไกล และจะก้าวขึ้นมาเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลต่อวงการนี้อย่างแน่นอน"
"ลาล่ามูฟไม่ได้เป็นเพียงบริษัทที่ให้บริการขนส่งแบบออนดีมานด์ในเมืองเดียวกันแห่งแรกเท่านั้น แต่เรายังคิดว่า ลาล่ามูฟจะกลายเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดของทวีปเอเชีย หรืออาจจะของโลกเลยก็ได้" นายเดวิด แชง ผู้ร่วมก่อตั้ง MindWorks Ventures กล่าว "บริการขนส่งแบบอินทราซิตี้นั้น เป็นธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก และจะกลายเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้บริโภค จึงมั่นใจได้ว่าบริการนี้จะมีจุดยืนที่มั่นคงในตลาดใหญ่ระดับโลกอย่างแน่นอน"
"เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของลาล่ามูฟทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ" ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ CEO บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit