นาตาลี พอร์ตแมน เปิดเผยว่า Jackie เคยเป็นโปรเจคต์ที่ ผู้กำกับ แดร์เรน อาโรนอฟสกี้ วางแผนว่าจะทำร่วมกับ เรเชล ไวซ์ (ภรรยาในเวลานั้นของเขา) แต่หลังจากที่อาโรนอฟสกี้หย่ากับไวซ์ เขาก็ลองคุยกับ เธอ จนเมื่อโปรเจคต์พัฒนาไปเรื่อยๆ อาโรนอฟสกี้ก็ขอถอนตัวจากการกำกับมานั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์แทน โดยติดต่อ ปาโบล ลาร์ราอีน ผู้กำกับชาวชิลีมากำกับแทน
ปาโบล ลาร์ราอีน ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หลายคนว่า เป็นคนทำหนังการเมืองได้เข้มข้นที่สุดในบรรดาคนทำหนังรุ่นเดียวกัน เขาผสมผสานเนื้อหาที่จริงจังเข้ากับสไตล์ที่กระตุ้นเร้าความสนใจผู้ชม หนังของเขาเข้าสายประกวดมาแล้วทั้งจาก 3 เทศกาลใหญ่ คือ คานส์, เบอร์ลิน และเวนิซ อีกทั้งยังเคยเข้าชิงออสการ์จากหนังเรื่อง No ในปี 20120
โนอาห์ ออพเพ่นไฮม์ เล่าว่า ขณะที่กำลังรีเสิร์ชเพื่อเขียนบท Jackie เขาพบว่า สิ่งที่เขากำลังเขียนไม่ใช่เรื่องราวในอดีต แต่มันเป็นอดีตที่ยังส่งผลต่อปัจจุบัน "ที่ผ่านมา ปธน.และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นคนดังอะไรขนาดนั้น แต่เป็นเพราะแจ๊คกี้ เธอเป็นคนกำหนดทิศทางภาพลักษณ์นั้น และมันก็ส่งผลต่อประธานาธิบดีมาทุกยุคทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน ผมถือว่านี่เป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากๆ ของอเมริกา"
การถ่ายทำส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ฉากการลอบสังหารที่ดัลลัส (เพราะสภาพถนนใกล้เคียงของจริงกว่า) และฉากภายในทำเนียบขาว (สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด) คือสองฉากสำคัญที่ถ่ายทำที่นั่น ส่วนฉากภายนอกทั่วไปนั้นถ่ายทำในสหรัฐอเมริกา
ฌอง ราบาสส์ ผู้ออกแบบงานสร้างของหนัง รับผิดชอบในการสร้างทำเนียบขาวขึ้นมาใหม่ โดยการใส่ใจทุกรายละเอียด ตอนแจ๊คกี้เข้ามารับตำแหน่งนั้น เธอรีโนเวททำเนียบขาวโดยจ้างสถาปนิกและมัณฑนากรชาวฝรั่งเศสมาดูแล หนังจึงเลือกผู้ออกแบบงานสร้างมาทำงานนี้เสียเลย โดยความละเอียดของงานนั้น เป๊ะกระทั่งชนิดของผ้าที่นำมาทำผ้าม่านก็ต้องเหมือน
และเพื่อรับบทนี้ นาตาลี พอร์ตแมน ต้องดูเทปที่แจ๊คกี้พาทัวร์ทำเนียบขาวในปี 1962 มาหลายสิบรอบ และคลิปสัมภาษณ์กับนักประวัติศาสตร์ อาร์เธอร์ ชเลซิงเกอร์ ในปี 1964 เธอต้องดูเพื่อเลียนแบบวิธีการพูดและบุคลิกของแจ๊คกี้ "ฉันอ่านทุกอย่างที่ฉันพอจะหาได้ ฉันฝึกหนักกับ ทันย่า บลัมสตีน ครูฝึกสำเนียงการพูด เราดูและฟังคลิปทัวร์ทำเนียบขาวหลายรอบมากๆ และฟังวิธีการพูดจากคลิปเสียงต่างๆ ของเธอ ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อหาจุดเด่นในการพูดของเธอ ฉันต้องพูดให้ได้เหมือนกับวิธีที่เธอพูดให้มากที่สุด ทั้งจังหวะหยุด จังหวะหายใจ การลังเล การเว้นคำระหว่างประโยค ทุกอย่าง"
ใน วันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 คนทั้งอเมริกาจดจำ แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้ แบบไม่มีวันลืม เมื่อเธอ นั่งเคียงข้างสามีเธอ ในรถเปิดประทุนขับวนไปทั่วเมืองดัลลัส ตอนที่ เจ.เอฟ.เค ถูกยิง ชุดไหมพรมสีชมพูของแจ๊คกี้ เปรอะไปด้วยเลือดของสามี แต่เธอไม่ยอมทิ้งชุดนี้ แม้แต่ตอนที่ ลินดอน จอห์นสัน ปฏิญานคนเป็นประธานาธิปดีคนใหม่ มีคนถามถามว่าเธอต้องการชุดใหม่ไหม เธอปฏิเสธพร้อมกล่าวว่า "ไม่ ฉันต้องการให้พวกเขาเห็น ว่าพวกเขาทำไรกับแจ็ค (จอห์น เอฟ เคนเนดี้) ลงไป ตอนนี้ ชุดๆ นั้ ถูกเก็บไว้ที่ องค์การบริหารจดหมายเหตุและบันทึกแห่งอเมริกา แต่หมวกสีชมพูที่เธอใส่ หล่นหายไปตั้งแต่วันลอบสังหารและไม่เคยมีใครเจออีกเลย
JACKIE หม้ายหมายเลขหนึ่ง
19 มกราคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit