"ตั้งแต่ปี 2547 ประเทศไทยส่งออกได้เฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกไปยังประเทศสิงคโปร์เท่านั้น ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ได้เจรจาและเชิญหน่วยงาน AVA ประเทศสิงคโปร์เดินทางมาตรวจรับรองโรงงานผลิตเนื้อไก่สดแช่แข็งของไทยและช่วงปลายปี 2555 หน่วยงาน AVA ได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ปัจจุบันประเทศไทยสามารถส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งไปยังประเทศสิงคโปร์ได้เพียง 2 โรงงาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงาน AVA" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 คาดว่าจะมียอดการส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งจากไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จากเดิมที่ในปัจจุบันไทยสามารถส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ราว 16,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,340 ล้านบาท (ปี 2559) สินค้าปศุสัตว์ที่ส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูปปรุงสุก 95%, เนื้อไก่สดดิบแช่เย็นแช่แข็ง 3% และผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรแปรรูปปรุงสุกและผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูป 2%
ด้านนายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์เพื่อการส่งออก ได้ร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสัตว์ปีกได้พัฒนาและสร้างความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ของไทย โดยพัฒนาระบบมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ ระบบการป้องกันควบคุมโรค และระบบการตรวจสอบสืบย้อนกลับได้จนถึงระดับฟาร์มจนมีมาตรฐานระดับโลก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ อันดับ 3 ของโลก รองจาก บราซิล และสหรัฐอเมริกา และได้รับความเชื่อมั่นจากหลายๆประเทศอนุญาตให้โรงงานผลิตเนื้อไก่ดิบสดแช่แข็งและเนื้อไก่ปรุงสุกของไทยส่งออกไปสู่ตลาดโลกได้ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น สหภาพยุโรป อาเซียน สาธารณรัฐเกาหลี และล่าสุดประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น
สำหรับข้อมูลการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกในปี 2559 พบว่า ไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกมากกว่า 720,000 ตันมูลค่ากว่า 92,000 ล้านบาท ซึ่งปริมาณการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 2558 และคาดการณ์ว่าปี 2560 ประเทศไทยจะมีปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกได้กว่า 750,000ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 96,000 ล้านบาท