สกอตต์ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งในการแข่งขันกอล์ฟเอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพน ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 35 ล้านบาท ที่เซราปง คอร์ส สนามเซนโตซา กอล์ฟคลับ ซึ่งจะเปิดฉากดวลวงสวิงในวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคมนี้ หลังจากเคยได้แชมป์ที่สนามแห่งนี้มาแล้ว 3 หนเมื่อปี2005, 2006 และ 2010 ขณะที่ในการลงเล่นครั้งหลังสุดเมื่อปี 2012 ก็ทำผลงานจบอันดับ 7
โปรกอล์ฟจากออสเตรเลีย กล่าวถึ "ผมมักทำผลงานได้ดีที่สนามกอล์ฟแห่งนี้ ทีช็อตแทบไม่หลุดแฟร์เวย์เลย เหมือนสนามเป็นใจให้ และใช้ความได้เปรียบนี้ในการคว้าแชมป์ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องมีความแม่นยำเช่นกัน"
แชมป์มาสเตอร์ส ปี 2013 และแชมป์พีจีเอ ทัวร์ 13 รายการ ยังเผยอีกว่า นอกจากสนามชื่นชอบสนามเซนโตซา กอล์ฟคลับแล้ว ตนยังมีความผูกผันกับประเทศสิงคโปร์ด้วย
"ผมมีความผูกพันกับสิงคโปร์ และสนามเซนโตซา ตลอดช่วง 10-12 ปี ที่ผ่านมา สิงคโปร์ โอเพน เป็นรายการที่ผมชื่นชอบ สนุกกับการแข่งขัน สนามก็ยอดเยี่ยม สิ่งต่างๆเหล่านี้ มีส่วนช่วยในการตัดสินใจว่าจะลงเล่นที่ไหน และถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีในการลงแข่งใกล้บ้าน " สกอตต์ กล่าวเสริม
ขณะเดียวกันโปรกอล์ฟวัย 36 ปี ระบุอีกว่า ตอนนี้ตนพัฒนาเป็นนักกอล์ฟที่ดีกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับ 12 ปีก่อนที่คว้าแชมป์รายการนี้สมัยแรก และมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตอนนี้แต่งงานและมีลูกสาวหนึ่งคน หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จึงแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก มีความเข้าใจเกมของตัวเองดียิ่งขึ้น และเล่นแบบไร้ความกดดัน
ด้าน จีฟ มิลก้า ซิงห์ โปรกอล์ฟชื่อดังจากอินเดีย หวังจะคว้าแชมป์สิงคโปร์ โอเพน มาครองได้อีกครั้ง หลังจากเคยทำได้เมื่อปี 2008"ผมมีความสุขที่ได้กลับมาที่นี่ ทำให้ได้ย้อนนึกถึงความทรงจำที่ดีมากมาย โดยเฉพาะการคว้าแชมป์สิงคโปร์ โอเพน เมื่อปี 2008 ซึ่งปีนั้นถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม จริงๆแล้วปี 2006 ก็เยี่ยมไม่แพ้กันชนะ 4 รายการ และมาทำได้ดีอีกครั้งในปี 2008 ซึ่งได้แชมป์รายการใหญ่ที่สิงคโปร์ และญี่ปุ่น และเมื่อกลับมายังสนามเซนโตซา ที่ประสบการณ์ชีวิตของผม เป็นเรื่องดีเสมอ"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit