ถลกหน้ากากคนลวง เราจะจับเท็จคนลวงได้อย่างไร

26 Jan 2017
โดยปกติมนุษย์เราจะโกหกกันได้แนบเนียนสักแค่ไหน ความจริงแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะภาษากายอาจฟ้องว่าเรื่องที่พูดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก
ถลกหน้ากากคนลวง เราจะจับเท็จคนลวงได้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญได้เผยแง่คิดที่ได้จากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ซึ่งระบุว่าร้อยละ 55 ของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับอวัจนภาษา ร้อยละ 38 อยู่ที่โทนเสียง ส่วนคำพูดหรือวัจนภาษามีความสำคัญเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น

ข้อมูลที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือเครื่องมือจับเท็จที่ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ทั้งจากสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และหน่วยสืบราชการลับแห่งสหรฐอเมริกา (ซีไอเอ) มักนำมาใช้ในขณะที่ทำการสืบสวนสอบสวนพยาน

ดวงตา

มร. มาร์ค บูตัน อดีดเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ได้ระบุไว้ในหนังสือของเขาชื่อ How to Spot Lies Like the FBI เขากล่าวว่าผู้คนมักแสดงความเครียดและความกังวลออกมาเวลาที่โกหก โดยมักจะกระพริบตาเร็วๆ หรือกลอกตาไปมา ท่าทางที่เกิดขึ้นเหล่านี้อาจเกิดมาจากกลไกการปกป้องตนเอง หรือความพยายามของจิตใต้สำนึกในการหาทางออกให้กับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ บูตัน กล่าวเพิ่มเติมว่าคนที่โกหกมักจะเหลือกตามองไปทางขวา แต่เวลาที่คนถนัดมือขวามองไปทางซ้าย เขาพยายามนึกถึงเหตุการณ์ เสียง กลิ่น และความรู้สึกที่ผ่านมาแล้ว แต่หากเขามองขึ้นไปทางขวาก็แสดงว่าเขาพยายามใช้จินตนาการเพื่อเสกสรรค์ปั้นแต่งเรื่องโกหก

ปาก

คนโกหกมักจะพยายามยิ้มเพื่อให้ตนเองรู้สึกเครียดน้อยลง อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเขานั้นจะดูฝืนธรรมชาติและแลดูไม่จริงใจ บูตันชี้ว่ารอยยิ้มที่จริงใจจะทำให้ผิวหนังรอบๆ ดวงตาเกิดรอยย่น นอกจากนี้ คนโกหกยังชอบเม้มริมฝีปากเพื่อไม่ให้ริฝีปากแห้ง ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงถึงความกดดันภายในเสียงและการพูด

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายใช้วิธีที่เรียกว่า norming ในการบ่งชี้ธรรมชาติในการพูดหรือประพฤติปฏิบัติตัวของผู้คน ในระหว่างการศึกษาได้มีการสังเกตและสรุปรูปแบบของภาษากาย การแสดงออกทางใบหน้า และความเร็วในการพูด ทั้งนี้ ข้อมูลจากเกร็กก์ แมกครารีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรวบรวมข้อมูลด้านอาชญากรรมของเอฟบีไอและนักวิเคราะห์ด้านอาชญากรรม กล่าวว่าน้ำเสียงและท่าทางการพูดจะเปลี่ยนไปเวลาที่คนโกหก

แขน

การสัมผัสใบหน้าในลักษณะต่างๆ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความไม่จริงใจ ฟิลิป ฮิวส์ตัน ไมเคิล ฟลอยด์ และซูซาน คาร์นิเซอโร เจ้าหน้าที่จากซีไอเอ ระบุในหนังสือชื่อ Spy the Lie ตัวอย่างเช่น การปิดตาและจมูกสื่อถึงความพยายามในการปกปิดการโกหก

หน้าและศีรษะ

บูตัน กล่าวว่าเหงื่อที่ปรากฏบนหน้าผาก แก้ม และต้นคอ เชื่อมโยงกับการโกหก ลักษณะการเคลื่อนไหวของศีรษะสามารถแสดงถึงความไม่สัมพันธ์กันระหว่างคำพูดและความคิด เวลาที่คนพูดความจริง เขามักพยักหน้ารับเพื่อแสดงว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด ในขณะที่จะส่ายหัวเวลาที่เขาไม่เห็นด้วยกบสิ่งที่เขาพูด

ภาษากาย คำตัดสิน ความยุติธรรม

การอ่านภาษากายถือเป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับดอกเตอร์เจสัน บูล ตัวละครเอกในซีรีส์แนวกฎหมายสัญชาติอเมริกัน ในบทบาทที่ปรึกษาด้านการพิจารณาคดีทราบเป็นอย่างดี

ในตอนหนึ่งของซีรีส์ ชื่อตอนว่า เดอะ เนคเลส บูลเตือนลูกความของเขาว่าคณะลูกขุนอาจจะตัดสินให้เขามีความผิดหากเขายังคงแต่งกายเหมือนนักเลงไปขึ้นศาล บูลยังเตือนลูกความอีกด้วยเกี่ยวกับเรื่องของการปกปิดข้อเท็จจริงในห้องพิจารณาคดี เพราะถ้าหากเขาถูกจับได้ว่าโกหกเพียงแค่เพราะปกปิดความจริงเพียงบางส่วน อาจจะทำให้การตัดสินความผิดของเขาแย่ลงไปอีก

ดอกเตอร์บูลยังคงนำเสนอเหตุการณ์พลิกผัน ปม และการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมของอเมริกา ในทุกๆ คดีที่เขาให้คำปรึกษา เขาพยายามช่วยให้ลูกความดูมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือและพูดความจริง ในขณะที่ให้ปากคำในศาล

บูลออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 20:00 น. วันเดียวกับสหรัฐอเมริกา ที่นี่และที่เดียวทางช่องอาร์ทีแอล ซีบีเอส เอ็นเตอร์เทนเมนท์(ทรูวิชั่นส์ ช่อง 337)

ถลกหน้ากากคนลวง เราจะจับเท็จคนลวงได้อย่างไร ถลกหน้ากากคนลวง เราจะจับเท็จคนลวงได้อย่างไร ถลกหน้ากากคนลวง เราจะจับเท็จคนลวงได้อย่างไร