เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบนี้ และตลอดทั้งปี 2560 เงินเฟ้อค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น แต่แรงกดดันต่อราคาสินค้ายังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นโยบายการคลังจะมีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยธปท.จะให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่งของภาคการเงิน และเป็นอีกหนึ่งเสียงของการผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจและอธิบายให้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจดัชนีค่าเงินบาทที่เพิ่มขึ้นยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ขณะที่การไหลออกของเงินทุนเมื่อเร็วๆ นี้ ช่วยสร้างสมดุลกับการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้หายใจคล่องขึ้นบ้าง
ระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แม้ว่าข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนบ่งชี้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น รายได้เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ขณะที่แผนการใช้งบประมาณกลางปีของรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้นในพื้นที่ชนบทน่าจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และลดระดับหนี้ครัวเรือน ส่วนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้น น่าจะช่วยส่งเสริมระดับการลงทุนภาคเอกชนด้วย ซึ่งการใช้จ่ายแค่เฉพาะภาคคมนาคมขนส่ง โดยคร่าว ๆ คิดเป็นประมาณร้อยละ 2 ของจีดีพีทั้งปีสำหรับปี 2560 และปี 2561 ขณะที่การส่งออกในช่วงนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจโลกเงินเฟ้อและความกังวลด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เงินเฟ้อทั่วไปกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายนโยบายในช่วงร้อยละ 1-4 แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 1 ในเดือนที่แล้ว เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพ เราคาดว่าในปีนี้เงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.7 เท่านั้น ซึ่งจะเอื้อให้ธปท.สามารถคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เช่นเดิมในปี 2560 ในขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินบาทจากเดือนตุลาคม-มกราคมปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดล่าสุด ในเดือนมีนาคม 2558 ร้อยละ 4.0 ดังนั้น จึงไม่น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนมากนักเปลี่ยนไปทำหน้าที่เบื้องหลัง
ถึงแม้ว่าธปท.จะไม่มีแนวโน้มปรับเครื่องมือด้านนโยบายการเงินในระยะอันใกล้นี้ แต่ธปท.น่าจะยังคงใช้การสื่อสารเชิงวัจนะเพื่อบ่งชี้ถึงท่าทีการดำเนินนโยบายในอนาคต หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาในทิศทางที่ไม่คาดหวัง นอกจากนี้ ธปท.จะยังคงเร่งดำเนินการเปลี่ยนแปลงและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยดังที่ระบุไว้ในแผนกลยุทธ์ 3 ปีของธปท.เอง ในบรรดาแผนต่างๆ ธปท.จะยังคงส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาการของภาคการเงิน (เช่น ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุน การเข้าสู่สังคมดิจิทัล ความปลอดภัยของธุรกรรมการเงิน ความสามารถในการแข่งขัน การเชื่อมโยงกับภูมิภาค เป็นต้น) และทำให้การกำกับดูแลมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น