ซึ่ง เต้ย เผยว่า "ในเรื่องเต้ยรับบทเป็นแพรวค่ะ แพรวเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง โตขึ้นมาด้วยตัวเอง รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่ลึกๆ เป็นคนขี้เหงา ขาดความรักจากครอบครัว แพรวเป็นแฟนเก่าแบบแฟนคนแรกของจิม (โทนี่ รากแก่น) เขาคือรักครั้งแรกของแพรว แล้วเป็นรักจำฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ มีความฝันถึงลอนดอนเหมือนกัน จิมไปเรียนที่ลอนดอนก่อน ส่วนแพรวใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งผ่านไป 5 ปี เราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย วันหนึ่งบริษัทส่งแพรวไปเรียนต่อที่ลอนดอน พอไปถึงลอนดอนปุ๊บ เราก็เจอกันเลยค่ะ"
"ที่รับแสดงเรื่องนี้ก็เพราะหนังมีบทที่ละเอียดอ่อนมาก มันมีเรื่องศีลธรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้อง คาแรกเตอร์คือเรามีความรู้สึกผิดในศีลธรรมที่ไม่ได้ปฏิเสธ บทของเราจึงละเอียดอ่อนมาก ท้าทายความสามารถทางการแสดงมาก เราต้องแสดงอารมณ์ว่าอยากกลับไปหาคนรักเก่า รู้สึกคิดถึง ดีใจที่ได้เจอ แต่ต้องเก็บไว้ในใจเพราะเรามีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งโมเมนต์ระหว่างแพรวกับจิมมันมีในชีวิตจริงนะ ที่จู่ๆ เราก็เจอคนที่ไม่สามารถลืมได้ มันจึงเกิดคำถามว่า เราจะสามารถเอาชนะความถูกต้องได้ไหมถ้าเกิดความรู้สึกนั้นไปไกลแล้ว เราต้องเคารพทั้งแฟนเรากับแฟนเก่า ซึ่งมันยากมากค่ะ ความรักในเรื่องเป็นโมเมนต์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปค่ะ อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีการรับมือกับโมเมนต์เหล่านั้นอย่างไร ซึ่งสามเมืองเป็นโมเมนต์ที่ไม่เหมือนกันเลย แต่พูดถึงเรื่องเดียวกัน ยังไม่มีหนังเรื่องไหนที่เอาการแบบข้ามเส้นแบ่งทางศีลธรรมมาเล่นแบบนี้ มันสะท้อนวิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆ เพราะฉะนั้นดูเรื่องนี้น่าจะให้ข้อคิดดีๆ กับคนดู"
ทางด้าน โทนี่ เผยว่า "มันเป็นโมเมนต์ความรักที่เกิดขึ้นได้ในยุคปัจจุบัน เป็นโมเมนต์ช่วงสั้นๆ แล้วขยายความรู้สึกตัวละครออกมา เป็นความละเอียดอ่อนทางความรู้สึกของทั้งสองคนที่พุ่งเข้าหากัน ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ที่เล่าถึงคนปัจจุบันที่ค่อนข้างอ่อนไหวง่ายต่อความรู้สึกรอบตัว"
"ความท้าทายในการแสดงคือเราต้องเล่นให้เหมือนเป็นคู่รักกันมา 7 ปี เราต้องเวิร์คช็อปกันเยอะมาก มาล้วงความเป็นมาที่หนังไม่ได้เล่าว่าเราเคยคบกันยังไง ใช้ชีวิตกันยังไง หรือแยกกันยังไง เราต้องสร้างเรื่องนี้พวกนี้ด้วยกันในห้องเวิร์คช็อป เพราะความรักที่เป็นคู่รักกันมานานมันหลอกไม่ได้ ก่อนถ่ายทำในสถานที่จริงเราจะเวิร์คช็อปกันก่อนทุกครั้ง เพื่อให้อารมณ์ไปถึงเลเวลที่ผู้กำกับต้องการ"
"ซีนที่อยากพูดถึงที่สุดคือซีนสุดท้าย เป็นวันสุดท้ายเราถ่ายทำที่สถานีรถไฟ Waterloo (วอเตอร์ลู) ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซีนนั้นเราผ่านการเดินทางมาด้วยกันสักพักแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราจะไม่ได้เจอกันแล้ว บวกกับเรื่องราวที่แพรวกำลังจะกลับไปหาแฟนเขา พวกเราแบบร้องไห้ไม่หยุด ร้องไห้จริง มันเป็นซีนที่ค่อนข้างรุนแรงมากต่อความรู้สึก ยิ่งเล่นเราสองคนก็ยิ่งอินมาก"
ติดตามชมความรักในสามเมือง ซึ่งร้อยเรียงหลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อการเดินทางนำแพรว จิม กานต์ คิม ต้น และเจี๊ยบ ไปพบกับคนที่ใช่...อีกคน เขาและเธอจะทำอย่างไร ค้นหาคำตอบได้ในภาพยนตร์
"รักของเรา the moment" 14 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์พร้อมกันทั่วประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit