บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ( SENA ) ประเดิมปีไก่ทอง เปิดโครงการ"เดอะนิช โมโน สุขุมวิท 50"ภายใต้คอนเซ็ปต์" Life Edit ตัดต่อไลฟสไตล์ให้ลงตัว" ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ลงตัวในทุกตารางนิ้ว ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช – ติดตั้งแผงโซลาร์ – Solar Station พร้อมเปิด Pre-Sale 25-26 กุมภาพันธ์นี้ เคาะราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" เดินหน้าผุดโครงการช่วงที่เหลือต่อเนื่อง หนุนยอดขาย-รายได้ปี"60 โตแกร่ง
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจัดงาน Pre-Sale คอนโดมิเนียมโครงการใหม่" เดอะนิชโมโน สุขุมวิท 50" " ระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Life Edit ตัดต่อไลฟสไตล์ให้ลงตัว" โดยเน้นให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ และความสะดวกสบายรอบด้านของการใช้ชีวิต เคาะราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดขายในปี 2560 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับโครงการเดอะนิชโมโน สุขุมวิท 50 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 อาคาร 8 ชั้น บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ ที่ออกแบบได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้าอย่างลงตัวในทุกตารางนิ้ว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพียง 800 เมตรใกล้รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช, ใกล้ทางด่วน ใกล้ห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังเป็นโครงการ Solar Cell ที่ผลิตไฟฟ้าใช้ในส่วนกลางได้เอง และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางในระยะยาว อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์แต่งครบ ลงตัวด้วยดีไซน์ ผู้ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่เบอร์ 1775 กด 50 หรือ www.sena.co.th
"โครงการ เดอะนิชโมโน สุขุมวิท 50 เป็นโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ "ตัดต่อทุกมุมของชีวิตให้ลงตัว ด้วยการคิดครบ" ลูกค้าจะได้สัมผัสชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ ที่พร้อมให้คุณหลีกหนีจากความวุ่นวาย พร้อมผ่อนคลาย และเติมพลังสดชื่นไปกับสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ที่อุปกรณ์ครบครัน ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ภายใต้ราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน" ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวอีกว่า ในปี 2560 บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจ รวมทั้งการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้ และกำไร เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และในปีนี้ บริษัทฯยังคงให้ความใส่ใจ ดูแลลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ "หัวคิด และหัวใจ"พร้อมบริการดูแลหลังการขาย 360 องศา เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วย องศาแห่งความอุ่นใจ ในบริการแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดย SENA We Care , องศาแห่งความสุข ดูแลทุกโครงการให้อยู่สบายโดย Victory , องศาแห่งความสบายใจ วันไหนก็ยังมั่นคงด้วยบริการรับฝากขาย – เช่า โดย Living agent , องศาแห่งความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะติดต่อหรือติดตาม และยังตรวจสอบปริมาณการลดค่าไฟฟ้าจากโซลาร์ ก็สะดวกสบายด้วยแอพพลิเคชั่น SENA 360° SERVICE
คุณ พนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่าในปี 2017 โครงการที่ได้ชะลอการขายช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา จะทยอยเปิดตัวกันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนของพื้นที่รอยต่อเขตกรุงเทพชั้นใน (Fringe Area) ยังคงมีโอกาสการพัฒนาที่ดี ความต้องการซื้อยังมี แต่อุปทานที่ดินสำหรับการพัฒนามีจำกัด โครงการที่เปิดขายในพื้นที่ดังกล่าวมีโอกาสประสบความสำเร็จในการขายสูง ระดับราคาอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
อุปทานคอนโดมิเนียม ในย่านถนนสุขุมวิทตอนปลาย (ช่วงสุขุมวิทซอย 71 – บางนา) ในระยะสามปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 4,000 – 5,000 หน่วย โดยในช่วงปี 2016 มีอุปทานเพิ่มขึ้นมาใหม่ประมาณ 4,832 หน่วย ซึ่งในช่วงระยะสามปีที่ผ่านมา อุปทานใหม่ที่เข้ามามีจำนวนที่น้อยลง เนื่องจากโครงการเปิดตัวส่วนมากเป็นโครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนหน่วยต่อโครงการน้อยลง โดยเฉลี่ยโครงการที่เปิดตัวช่วยปี 2012 – 2013 มีจำนวนหน่วยต่อโครงการอยู่ที่ 465 หน่วย เทียบกับช่วงปี 2014 – 2016 ที่เฉลี่ยมีจำนวนหน่วยต่อโครงการอยู่ที่ 302 หน่วย
จากข้อมูลปี 2016 ทำเลนี้มีอุปทานใหม่รวมทั้งสิ้น 4,832 หน่วย โดยจากทั้งหมดนี้กว่าร้อยละ 64 เป็นหน่วยที่มาจากโครงการห้องชุดที่เป็นอาคารสูง (High Rise) ในขณะที่ร้อยละ 36 มาจากโครงการห้องชุดที่เป็นอาคารเตี้ย (Low Rise) หากจำแนกเป็นเกรดของคอนโดมิเนียม พบว่าคอนโดมิเนียมในทำเลนี้เป็นคอนโดมิเนียมเกรดบีมากที่สุด มีสัดส่วนร้อยละ 41 ของอุปทานทั้งหมด ตามด้วยคอนโดมิเนียมเกรดซี ที่มีสัดส่วนร้อยละ 37 ของอุปทาน ส่วนสุดท้ายร้อยละ 22 ของอุปทาน เป็นคอนโดมิเนียมเกรดเอ ซึ่งมีสัดส่วนที่สูงเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2015 ที่มีสัดส่วนคอนโดมิเนียมเกรดเอเพียงแค่ร้อยละ 15 ของอุปทานในทำเลนี้ ซึ่งหมายความว่าทำเลนี้มีศักยภาพในการเติบโตทางด้านราคาขาย เป็นที่น่าสนใจว่ามีตลาดคอนโดมิเนียมเกรดเอในบริเวณสุขุมวิทมีแนวโน้มการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ตอนปลายตั้งแต่ปี 2015
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2016 มีอุปสงค์สะสมคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนปลายอยู่ที่ 33,133 หน่วย จากอุปทานสะสมทั้งหมด 40,823 หน่วย คิดเป็นยอดขายสะสมที่ร้อยละ 81.2 ซึ่งต่ำลงกว่ายอดขายสะสมของปี 2015 เพียงเล็กน้อย หากคิดเป็นอุปสงค์รายปี พบว่าจำนวนหน่วยที่ถูกขายไปในปี 2016 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,771 หน่วย น้อยลงกว่าจำนวนที่ถูกขายใน 4 – 5 ปีก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากว่ามีการชะลอตัวในการตลาดจากผู้พัฒนาโครงการในช่วงท้ายของปี ส่งผลให้ยอดขายคอนโดมิเนียมในปี 2016 ต่ำกว่าปีก่อน ๆ หน้า อย่างไรก็ตาม จำนวนอุปทานใหม่ในแต่ละปีที่สูงกว่าอุปสงค์ไม่มากจนเกินไป ประกอบกับอัตรายอดขายสะสมที่สูง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในทำเลนี้
ระดับราคาคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนปลาย (ซอยสุขุมวิท 71 – บางนา) มีอัตราการเติบโตสะสมต่อปี (CAGR) อยู่ที่ประมาณร้อยละ 9.78 ต่อปี โดยคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิทตอนปลายในปี 2016 มีราคาขายสูงสุดอยู่ที่ตารางเมตรละ 163,673 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ตารางเมตรละ 74,150 บาท ค่าเฉลี่ยในบริเวณทั้งหมด มีราคาขายอยู่ตารางเมตรละ 101,493 บาท หากเปรียบเทียบดูการเติบโตของราคา พบว่ามีการเติบโตของราคาที่สูง คอนโดมิเนียมที่อยู่ที่ไม่เกิน 85,000 บาทต่อตารางเมตร จึงถือว่าเป็นราคาที่ดีเมื่อเทียบกับตลาด และยังคงมีช่องว่างของราคาที่เพิ่มขึ้นตามค่าเฉลี่ยของทำเลที่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของราคา
นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเดอะนิชโมโน สุขุมวิท 50 เป็นอาคารคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 434 ยูนิต มีราคาขายเริ่มต้น 2.2ล้าน ที่ 82,000 บาทต่อตารางเมตร ตกแต่งแบบพร้อมอยู่ (Fully Furnished) เมื่อเปรียบเทียบกับราคาในตลาดโดยเฉลี่ยแล้วถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมคุ้มค่ากับการลงทุนหรือซื้อเพื่ออยู่อาศัย ประกอบกับจุดขายที่โดดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟส่วนกลาง ซึ่งจะเป็นการประหยัดเงินเรื่องค่าส่วนกลางให้กับผู้อยู่อาศัยได้ในระยะยาว ประกอบกับการบริการหลังการขายของเสนา บริการแจ้งซ่อมออนไลน์ 24 ชั่วโมง บริการรับฝากขายและเช่า
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit