นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด เปิดเผยว่า การดำเนินงาน HORECA Asia 2017 ตามแผนงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มหอการค้าชั้นนำจากยุโรป อาทิ สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส ทำให้ทราบว่ามุมมองต่อธุรกิจโฮเรก้าไทยในสายตาของคู่ค้ายุโรปนั้น เป็นที่จับตามองในอันดับต้น เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการค้า แหล่งท่องเที่ยว แหล่งอาหารหรือครัวของโลก และมีความพร้อมในหลายด้าน ทั้งสาธารณูปโภค นโยบายการค้า และคุณภาพของบุคลากรในสายงานบริการ แต่สิ่งที่ยังขาดแคลน นั่นคือ ความรู้ด้านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่จะตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและพฤติกรรมไปต่างจากเดิม
ขณะเดียวกัน มุมมองของคู่ค้ากลุ่มเอเชีย อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็ให้ความสำคัญต่อตลาดโฮเรก้าไทย เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และบริการของไทยที่มีคุณภาพ จนเกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดและผลิตภัณฑ์ในหลายธุรกิจที่ผ่านมา อาทิ สินค้าตกแต่งกลุ่มโรงแรมหรือร้านอาหารของไทย ก็มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หรือ ร้านอาหารกลุ่ม SME ของเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นก็มาเติบโตในไทยเช่นกัน นอกจากนี้ ไทยยังเป็นผู้นำเทรนด์ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งการเปิดตลาดในไทย จะช่วยต่อยอดธุรกิจไปในระดับภูมิภาคได้ง่ายมากขึ้น
การพัฒนาธุรกิจโฮเรก้าอย่างยั่งยืน ภายใต้สภาพเศรษฐกิจ การเมือง สังคมวัฒนธรรม เทคโนโลยี แรงงาน และสายตาของคู่ค้าจากต่างประเทศ จากผลการศึกษาและวิจัย จึงเกิดเป็นสูตรกลยุทธ์ธุรกิจ HORECA 4.0 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability Management) และการพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมสมัยใหม่ ประกอบด้วยหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1) การจัดการคุณค่าขององค์กรให้เกิดคุณค่าที่สูงขึ้นในสายตาของผู้บริโภคอย่างเป็นระบบ (Value Chain Management) อาทิ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ การตลาดเพื่อสังคม กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การบริการหลังการขาย 2) การบริหารและพัฒนาบุคลากร (Talent Management) เพราะธุรกิจโฮเรก้า เป็นธุรกิจบริการ การขับเคลื่อนธุรกิจต้องใช้บุคลากรเป็นสำคัญ 3) การพัฒนาเครือข่ายในกลุ่มผู้ประกอบการ (Networking and Partnership) ไม่ควรมองเป็นคู่แข่ง แต่ควรพัฒนาและเรียนรู้ไปร่วมกันด้วยการสร้างจุดเด่นและแตกต่างของตนเอง รวมทั้งสร้างกลุ่มเพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและอำนาจการต่อรอง 4) การนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างมีเป้าหมาย (Technology and Innovation Driven)
ทั้งนี้ การดำเนินงาน HORECA Asia 2017 หรือ งานแสดงสินค้านานาชาติสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร กาแฟ และรับจัดเลี้ยง ประจำปี พ.ศ. 2560 ของ บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด ได้นำ 4 กรอบกลยุทธ์ HORECA 4.0 มาจัดแสดง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย-เทศ ได้ร่วมเรียนรู้ เปิดโลกทัศน์ จุดประกายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ สร้างเครือข่ายธุรกิจ ต่อยอดการค้าด้วยการเจรจาธุรกิจ ภายใต้แนวคิดหลักคือ Total Solution หรือ ครบจบในงานเดียว ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
ท้ายที่สุด ความคืบหน้าการจัดงาน HORECA Asia ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการกลุ่มหอการค้าประเทศอิตาลี ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่ม CLMV ประมาณ 8 พาวิลเลียน โดยเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมออกร้านทั้งสิ้น 250 คูหา เป็น คูหาจากต่างประเทศร้อยละ 30 ขณะเดียวกัน ก็มีแผนการตลาดนำผู้ซื้อจากในประเทศและต่างประเทศมาเยี่ยมชมงานประมาณ 8,000 ราย เป็นกลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศร้อยละ 20 จากประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย และกลุ่ม CLMV
กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่มาร่วมจัดแสดงได้แก่ เครื่องจักร อุปกรณ์สำหรับการติดตั้งและก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง บริการทางธุรกิจ การออกแบบ ซอฟต์แวร์การจัดการ สินค้าสำเร็จรูป ชุดเปิดธุรกิจสำเร็จรูป การบริการด้านการตลาดและสร้างแบรนด์ การจัดการด้านการเงิน การบริหารและพัฒนาบุคลากร สินค้าและบริการราคาพิเศษสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ และบริการจัดเลี้ยงอย่างครบวงจร
ตัวอย่างผู้ประกอบการที่ตอบรับเข้าร่วมแสดงสินค้า อาทิ เมเยอร์, รอยัล ปอร์ซเลน, อินเตอร์ ไชน์นิ่ง ไลน์, เดโม พาวเวอร์ อุดมซัพพลาย เป็นต้น
นายปริพัตร บูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกวินน์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างและในประเทศ ส่งผลดีทำให้การตัดสินใจท่องเที่ยวมาไทย จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น China Effect หรือผลกระทบของทัวร์ศูนย์เหรียญ จะลดน้อยลง มีการปรับรูปแบบของทัวร์จีนจากเดิมเป็นกลุ่มกลายเป็นท่องเที่ยวอิสระมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจโฮเรก้าไทย โดยเฉพาะ SME เพราะนักท่องเที่ยวอิสระ จะชื่นชอบการท่องเที่ยวที่มีสไตล์ และค่าใช้จ่ายต่อหัวมากขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลล่าร์ หากค่าเงินบาทอ่อนตัวลง จะส่งผลต่อการเติบโตธุรกิจโฮเรก้าเพิ่มขึ้น เพราะจะดึงนักท่องเที่ยวมาไทยหรือสั่งซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจากไทยมากขึ้น ด้านภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากความสงบในสังคม และหมดภาระหนี้สินจากการผ่อนจ่ายรถยนต์คันแรกของกลุ่มชนชั้นกลาง ควบคู่ไปกับนโยบายส่งเสริมการซื้อและใช้บริการของภาครัฐ ส่งผลให้มีความต้องการซื้อเพิ่มมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม ความต้องการขายก็มีจำนวนมากเช่นกัน จึงเป็นสิ่งท้าทายของธุรกิจโฮเรก้า จะต้องเร่งสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ให้ชัดเจนมากขึ้น
ด้านการเมืองและกฎหมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโฮเรก้า ความมั่นใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นที่จับตามองในเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งทางการเมือง รวมทั้งการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญจากประเทศจีน และการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับ ผู้บริโภคในประเทศ ได้รับแรงกระตุ้นจากภาครัฐมาตรการด้านภาษี และการเมืองที่ยังสงบ ทำให้แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดี
ด้านสังคมและวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อธุรกิจโฮเรก้า พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ธุรกิจทุกระดับมีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างเท่าเทียมกัน และกระแสโลกในเรื่อง รักษ์โลก จะเพิ่มระดับมากขึ้น ส่งผลต่อการวางแผน จัดการ และออกแบบธุรกิจให้สอดคล้องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้ง กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นตลาดที่น่าจับตามองในธุรกิจโฮเรก้า ซึ่งต้องให้ความสำคัญด้านการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น นอกจากนี้ การขยายเมืองใหญ่และการเพิ่มขึ้นของระบบขนส่ง ทำให้ธุรกิจโฮเรก้า ขยายตัวตามไปด้วย และในสถานการณ์แห่งความเศร้าโศก โดยปกติธรรมชาติของคน จะต้องหาทางลดความเครียด (pressure relief) ทางออกที่ง่ายสุด คือ การออกมาช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร พักผ่อน ทำให้เอื้อต่อธุรกิจนี้ด้วย
ด้านเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อธุรกิจโฮเรก้า เมื่อทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้นผ่านปลายนิ้ว ทำให้ธุรกิจอีคอมเมอร์ซเติบโต ผู้ประกอบการธุรกิจโฮเรก้าต้องพร้อมที่จะปรับตัว แต่ต้องไม่ลืมเรื่องความปลอดภัยในระบบ การจัดส่งสินค้า การบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการแข่งขัน รวมทั้ง อาจจะจะเกิดคู่แข่งใหม่ๆ ขึ้นตลอด เช่น โรงแรม ก็จะมี Airbnb เป็นต้น
ด้านตลาดแรงงานที่ส่งผลต่อธุรกิจโฮเรก้า การไหลของแรงงานต่างชาติเข้ามาไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีเพียงพอต่อธุรกิจ แต่แรงงานในกลุ่มนี้ แบ่งได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับชำนาญการ ที่มีทักษะชั้นสูง เช่น งานบริการ กับ ระดับไร้ทักษะ ทำงานตามสั่ง ซึ่งแรงงานต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มไร้ทักษะ มีค่าจ้างถูก ขณะที่แรงงานไทย เป็นแรงงานมีความชำนาญ มีค่าจ้างสูงกว่า จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการที่จะพัฒนาแรงงานระดับไร้ทักษะ ให้เป็นชำนาญการ เพื่อดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ ขณะเดียวกัน แรงงานระดับชำนาญการ ก็จะเป็นที่ต้องการตลาดมากขึ้น อาจเกิดการแย่งซื้อตัวในธุรกิจโฮเรก้าได้
ปัจจัยเสี่ยงภาคธุรกิจโฮเรก้า ประจำปี 2560 แบ่งได้ 5 ประการ ได้แก่ 1) ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สินค้าใหม่ที่เกิดขึ้นทดแทนรูปแบบเดิม และเสถียรภาพทางการเมือง 2) ความเสี่ยงด้านธุรกิจ การบริหารต้นทุนแรงงาน การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมโฮเรก้า และกำลังซื้อของผู้บริโภค 3) ความเสี่ยงด้านการเงิน กลุ่ม SME ต้องวางแผนการใช้เงิน กระแสเงินสด ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการลงทุนเพิ่มเติม 4) ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน คุณภาพบริการที่ดีต้องรักษาแรงงานที่ดี โรคระบาด และความปลอดภัยของอาหารและสุขภาพ 5) ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนคำนึงถึงทุกฝ่าย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการ HORECA ASIA 2017 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณอัจฉรา กองแก้ว คุณอดิศร กันทะเมืองลี้
Sales Manager – Asia Pacific Project Director
โทร + 66 (0) 859360799 โทร + 66 (0) 899554463
อีเมล์ [email protected] อีเมล์ [email protected] หรือ http://www.horecaasiaexpo.com และ https://web.facebook.com/horecaasia2017
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit