นายเชาว์ ทรงอาวุธ รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยในฐานะประธานกรรมการดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า โครงการ กยท. และชาวสวนยาง ร่วมแบ่งปันน้ำใจ ช่วยเหลือชาวนา รับซื้อข้าวหอมมะลิคุณภาพดี กยท.ได้ตั้งเป้าหมายการรับซื้อข้าว จำนวน 50 ตัน และขณะนี้ได้ดำเนินโครงการมาแล้ว 1 เดือน จากเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 โดยรับซื้อข้าวจากสหกรณ์การเกษตรอำเภอพิมาย จ. นครราชสีมา จำนวน 18 ตัน (3,600 ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม) และอีก 38.25 ตัน รับซื้อจากกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ เพื่อหวังให้เป็นการยกระดับราคาข้าวในภาวะวิกฤต ให้เกษตรกรได้ขายข้าวในราคาที่เป็นธรรม และเพื่อกระจายข้าวหอมมะลิคุณภาพดีสู่ประชาชน
ซึ่งการเปิดจุดจำหน่าย แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 จุด ได้แก่ สำนักงานใหญ่ กยท. และฝ่ายวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจยาง ถ.บางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมกันนี้ ได้ดำเนินการกระจายจุดจำหน่ายไปตามพื้นที่ กยท.เขตภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วย เขตภาคใต้ตอนบน จำนวน 8 ตัน จากกลุ่มสวนยางพาราบ้านอาโพน อ.บัวเชด จ. สุรินทร์ เขตภาคใต้ตอนกลาง จำนวน 16.5 ตัน จากกลุ่มหนองโจงโลง จ.สุรินทร์และสหกรณ์การเกษตรศรีสะเกษ ภาคใต้ตอนล่าง จำนวน 10 ตัน จากสหกรณ์การเกษตรศรีสะเกษ และสุดท้ายเขตภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 3.75 ตัน จากโรงสีชุมชนบ้านละเอาะ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยรวมการจำหน่ายของ กยท. ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 56.25 ตัน (11,250 ถุง) คิดเป็นจำนวนเงินได้ 1,856,250 บาท นับว่าเกินเป้าหมายที่ได้ตั้งเป้าไว้ ส่วนหนึ่งก็ด้วยความร่วมมือของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางหลายพื้นที่ได้มีการขอรับซื้อจาก กยท. นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของเกษตรกรชาวสวนยางประชาชนชาวไทยทั่วไป รวมถึงการร่วมแรงร่วมใจของพนักงาน กยท.ทุกพื้นที่ ทั้งที่ช่วย ณ จุดจำหน่ายข้าวและช่วยกันซื้อข้าวของโครงการ 1 คน 1 ถุง ทั้งนี้ถือเป็นโอกาสได้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาและได้บริโภคข้าวหอมมะลิคุณภาพดีด้วยเช่นกัน ซึ่งจากนี้จะเร่งจัดจำหน่ายให้เสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค. 2559 นี้ นายเชาว์ กล่าวทิ้งท้าย
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit