นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท เจีย ฮ่าว กรุ๊ป ( JAIE HAOUR) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจากไต้หวัน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและการสร้างโรงงานมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี และมีความสนใจในการเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย เนื่องจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่ไต้หวันเริ่มอิ่มตัว ในขณะที่ประเทศไทยยังมีศักยภายการเติบโตได้อีกค่อนข้างมาก และมีค่าแรงต่ำกว่าไต้หวัน รวมถึงค่าแรงไม่มีความผันผวนและการเมืองถือว่ามีความมั่นคงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน
ปัจจุบัน JAIE HAOUR ได้เข้ามาถือหุ้นของ TFD แล้วแต่ยังไม่มาก และในอนาคตจะมีการเจรจาเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นมากขึ้น ส่วนของธุรกิจการทำนิคมอุตสาหกรรมนั้นเราก็จะได้ประโยชน์จากที่ทาง JAIE HAOUR มีลูกค้าจากการทำนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานที่ไต้หวันอยู่จำนวนมาก และการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ TFD ก็จะช่วยดึงลูกค้าจากไต้หวันให้ย้ายมาตั้งโรงงานที่ประเทศไทย หรือซื้อโรงงานเพิ่มในไทยเพราะนิคมอุตสาหกรรมที่ไต้หวันเริ่มอิ่มตัว ซึ่ง TFD มีตรงจุดนี้ไว้รองรับทั้งในส่วนของที่ดินและโรงงานนอกจากนี้ JAIE HAOUR ยังสนใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ TFD ที่ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูกคือ บริษัท คราวน์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีความคุ้นเคยกับลูกค้าไต้หวันเป็นอย่างดี เนื่องจากได้มีการขาย โครงการ เดอะ ฮาเบอร์ ให้กับกลุ่มทุนจากไต้หวัน แบบยกโครงการไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งมีกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่น่าสนใจในการเลือกทำเลสร้างโครงการให้ได้ในย่านใจกลางเมืองโดยการซื้อตึกเก่าที่ยังมีสภาพดีมาพัฒนาต่อ ซึ่งการเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกันนี้ก็จะทำให้บริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน รวมถึงสามารถกระจายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนไต้หวัน ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงแค่ลูกค้าชาวไทย จึงเป็นการปูทางไปสู่การนำ บริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ เข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต
นายกั่ว - จั่น เจิง ประธานกรรมการ บริษัท เจีย ฮ่าว กรุ๊ป (MR.KUO-CHAN TSENG Chairman of JAIE HAOUR) กล่าวว่ามีความยินดีอย่างยิ่งในการร่วมเป็นพันธมิตรกับ TFD เนื่องจากเราได้เข้ามาศึกษา TFD มาระยะหนึ่งแล้วก่อนที่จะมีการถือหุ้นพบว่า TFD มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจด้านเดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ยังช่วยให้บริษัทได้ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย จึงเป็นโอกาสที่จะดึงนักลงทุนจากไต้หวันให้ย้ายฐานมาลงทุนในไทย ซึ่งTFD มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้กับระบบคมนาคมทั้งสนามบินและท่าเรือ
อีกทั้งประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้สูง คนที่จะมาลงทุนที่นี่ก็จะสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรได้เช่นกัน แม้จะมีการเปิด AEC แล้ว แต่ระบบสาธารณูปโภค ทั้งรถไฟฟ้า ทั้งไฟใต้ดิน และการท่องเที่ยว ค่าครองชีพ เมืองไทยค่อนข้างพร้อมกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มองว่าในอนาคตการเจริญเติบโตยังมีอีกมาก ยังมีโอกาสที่ดีและสูงกว่าเพื่อนบ้าน