• ด้วยเวิร์กโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการประสานงานเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย การฝึกอบรม และงานธุรการ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างดีเยี่ยม
• เพิ่มประสิทธิภาพและความเชื่อมั่นในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และการป้องกันโรค
หน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดกว๋างนินห์ (Quang Ninh) ประเทศเวียดนาม ได้ติดตั้งเครือข่ายสาธารณสุขทางไกลในระดับจังหวัด เพื่อขยายการให้บริการสาธารณสุขที่สำคัญๆ สู่ชุมชนในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล และเพิ่มการเชื่อมต่อระยะไกลระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ด้วยเทคโนโลยีการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอของโพลีคอม รวมถึงโซลูชั่นแบบติดตั้งภายในห้องและโซลูชั่นแบบพกพา หน่วยงานสาธารณสุขดังกล่าวจึงสามารถให้คำปรึกษาทางการแพทย์และติดตามผลการดูแลรักษาผู้ป่วยที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร พร้อมทั้งปรับปรุงการฝึกอบรมและการประสานงานร่วมกันสำหรับแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล
กว๋างนินห์เป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า6,000 ตารางกิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะมีระบบคมนาคมขนส่งที่หลากหลาย ทั้งทางบกและทางน้ำ แต่การเดินทางยังคงยุ่งยากซับซ้อนและไม่สะดวก
จังหวัดกว๋างนินห์มีภูมิประเทศเป็นที่ราบ ภูเขาสูง และเกาะแก่งมากมาย ยากต่อการเข้าถึง และบางอำเภอหรือบางชุมชนต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มๆสำหรับการเดินทางจากตัวเมืองด้วยรถยนต์ ดังนั้นประชากรและชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนและเกาะแก่งที่อยู่ห่างไกล รวมไปถึงชนกลุ่มน้อย จึงประสบปัญหาอย่างมากในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ด้วยเหตุนี้เครือข่ายสาธารณสุขทางไกลจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ดังกล่าว
ในทำนองเดียวกันบุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยงานสาธารณสุขเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมและร่วมประชุมกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ดีงนั้นนับตั้งแต่มีการเริ่มต้นใช้งานเครือข่ายสาธารณสุขทางไกล โรงพยาบาลและศูนย์อนามัยชุมชน 24 แห่งทั่วจังหวัดสามารถเชื่อมต่อเรียลไทม์แบบเห็นหน้าคู่สนทนากับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ และให้บริการแก่ผู้ป่วยจำนวนมาก ควบคู่ไปกับการจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่องและทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น มีการจัดตั้งโครงการสาธารณสุขทางไกลเพื่อให้คำแนะนำด้านเทคนิคและบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในกรณีที่เกิดภัยพิบัติและโรคระบาด ช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนบริการฉุกเฉินในกรณีต่างๆ เช่น ฝนตกกระหน่ำเป็นเวลานาน ดังที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 จนมีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมากที่เมืองฮาลอง (Ha Long) และเกิ๋มฝา (Cam Pha)
"เครือข่ายสาธารณสุขทางไกลก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อระดับการให้บริการแก่ชุมชนต่างๆ ในจังหวัดนี้ และลดภาระงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์" นาย วู ซุน เดียน ผู้อำนวยการหน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดกว๋างนินห์ กล่าว "ตัวอย่างเช่น ในการวินิจฉัยกรณีทางการแพทย์ที่ซับซ้อน จะต้องส่งตัวผู้ป่วยเป็นระยะทางไกลจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดไปยังโรงพยาบาลส่วนกลางที่ แบ๊กมาย (Bach Mai) หรือเวียดดึ๊ก (Viet Duc) แต่ระบบสาธารณสุขทางไกลช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยงเข้าไปที่โรงพยาบาลส่วนกลาง เพื่อระบุวิธีรักษาผู้ป่วยและวินิจฉัยอาการเบื้องต้นได้อย่างฉับไว"
เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการประสานงานร่วมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น
คุณประโยชน์ที่สำคัญของการประสานงานร่วมกันเพิ่มมากขึ้นในหน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดกว๋างนินห์ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในระดับต่างๆ ตั้งแต่การบริหารงานสาธารณสุข ไปจนถึงการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วย และการจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากร
ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน ในกรณีที่ต้องมีการออกประกาศคำสั่งและคำแนะนำด้านสาธารณสุขในทันที บุคลากรราว 300 คนสามารถเข้าร่วมการประชุมผ่านวิดีโอ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งนับว่าสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องรับมือกับภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม โรคระบาด นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งปันและเผยแพร่ข้อมูล ข้อกำหนด และระเบียบปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจัดหาบริการทางการแพทย์ที่เหมาะสมให้แก่พื้นที่ประสบภัย นอกจากนั้นคณะผู้บริหารไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อเข้าร่วมการประชุมสำคัญอีกต่อไป จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ และลดเวลาที่ใช้ในการประชุมแต่ละครั้งได้ราว 3-4 ชั่วโมง
การประสานงานร่วมกันผ่านวิดีโอยังช่วยลดภาระงานสำหรับโรงพยาบาลส่วนกลางในเรื่องของการรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลอื่น ด้วยการเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในเวียดนามและในต่างประเทศผ่านทางระบบวิดีโอสำหรับการทำงานร่วมกัน และปรับปรุงการประสานงานระหว่างโรงพยาบาลส่วนกลาง โรงพยาบาลประจำจังหวัด และโรงพยาบาลประจำอำเภอ จึงช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญได้อย่างทั่วถึงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตัวอย่างเช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่ศูนย์อนามัยบนเกาะโกโต (Co To) สามารถเรียนรู้และดูวิธีการผ่าตัดหัวใจผ่านการถ่ายทอดสดจากโรงพยาบาลกว๋างนินห์ โดยใช้เทคโนโลยีการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอของโพลีคอม นอกเหนือจากการลดความจำเป็นในการเดินทางแล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้แพทย์ที่ศูนย์อนามัยดังกล่าวสามารถเพิ่มพูนความรู้และความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ นับเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน
นาย วู ซุน เดียน กล่าวเสริมว่า "โครงการฝึกอบรมสำหรับบุคลากรของเราดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยระบบการทำงานร่วมกันแบบเห็นหน้าคู่สนทนา เราได้ติดตั้งระบบการประชุมผ่านวิดีโอในโรงพยาบาลและศูนย์อนามัย 18 แห่ง และระบบดังกล่าวรองรับการประชุมทางออนไลน์เพื่อเผยแพร่คำสั่งและแนวทางสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น การป้องกันและควบคุมโรคระบาด และภัยธรรมชาติ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือสำหรับการฝึกอบรมทางวิชาชีพ
"ในปี 2558 เราจัดการประชุมออนไลน์ 32 ครั้ง ครอบคลุมบุคลากร 7,000 คนในการประชุม 19 ครั้งสำหรับการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ รวมถึงแนวทางการจัดการสำหรับการควบคุมและป้องกันโรคระบาด ในการประชุมแต่ละครั้งโดยเฉลี่ยแล้วมีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน และเราได้จัดการฝึกอบรมทางวิชาชีพผ่านระบบออนไลน์ 13 ครั้งสำหรับบุคลากรกว่า 1,000คน" นาย วู ซุน เดียน กล่าวเพิ่มเติม "นอกจากนี้ มีการใช้ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล 10 แห่ง เพื่อรองรับการให้คำปรึกษา การผ่าตัด การตรวจสอบทางการแพทย์ และการรักษาพยาบาลผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล หน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดกว๋างนินห์มีความภาคภูมิใจที่ได้ดำเนินโครงการสาธารณสุขทางไกลในเวียดนาม เพื่อให้บริการแก่ชุมชนและบุคลากรของเราอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม"
การประสานงานร่วมกันรองรับการช่วยชีวิต
หน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดกว๋างนินห์ได้ติดตั้งโซลูชั่นต่างๆ เพื่อรองรับการประสานงานร่วมกัน และหนึ่งในนั้นคือโซลูชั่น Polycom Group Series 500 และ Polycom HDX 7000 สำหรับการประสานงานผ่านระบบวิดีโอความละเอียดสูง รวมไปถึงการแชร์มีเดียคอนเทนต์ที่หลากหลาย ทั้งยังรองรับการสนทนาและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างทีมงานต่างๆ ที่แยกกระจัดกระจายตามพื้นที่ที่ห่างไกล โซลูชั่น Group Series 500 ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วย Polycom UC Board สำหรับการใช้งานในห้องตรวจวินิจฉัยโรคภายในโรงพยาบาล โดยรองรับการจดบันทึกบนไวท์บอร์ดและการใส่คำอธิบายประกอบในภาพเอ็กซเรย์ภายในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีโซลูชั่นที่ช่วยปรับปรุงการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักและการอัพเดตข้อมูลการผ่าตัด นั่นคือ Polycom Real Presence Utility Cart 500 ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์วิดีโอแบบพกพาสำหรับการประสานงานร่วมกัน สามารถเข็นเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆ ภายในโรงพยาบาลได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้สามารถติดต่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญได้ทุกที่ที่จำเป็น
"โซลูชั่นของโพลีคอมช่วยปรับปรุงแง่มุมต่างๆ ของระบบงานสาธารณสุข โดยรองรับระบบการแพทย์ทางไกล การประสานงานเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย การให้ความรู้ทางการแพทย์ และการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล" รอน อีเมอร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอุตสาหกรรม โซลูชั่นทางการแพทย์และการพัฒนาตลาด กล่าว "ด้วยเทคโนโลยีเสียงและวิดีโอความละเอียดสูง และการใช้รถเข็นที่ตั้งวางอุปกรณ์วิดีโอแบบพกพา ช่วยให้หน่วยงานสาธารณสุขของเวียดนามสามารถพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ ทั้งยังสร้างการเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ในชนบทอีกด้วย"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit