" ธุรกิจเพลงของ อาร์เอส ยังไปได้ดี มีรายได้แข็งแกร่ง และทำกำไรดูแลตัวเองได้ สวนกระแสธุรกิจเพลงทั่วโลกที่ค่อยๆ ทยอยล้มหายตายจากไป เนื่องจากเรามีการปรับโมเดลธุรกิจให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยยังคงมุ่งมั่นสร้างคอนเทนต์ใหม่สู่ตลาดเพลงอย่างต่อเนื่อง และผลิตผลงานเพลงให้ครอบคลุมทุกมิติ ด้วยการนำเอาศิลปินเบอร์ต้นๆ ซึ่งมีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น มาทำงานเพลงด้วยกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งแอนด์เซอร์วิสเพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างมูลค่า ต่อยอดทางธุรกิจเพลงในทุกรูปแบบ แต่จะเปิดโอกาสให้ศิลปินเข้ามามีส่วนร่วมลงทุนผลิตผลงานเพลงในลักษณะกึ่งพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตัวศิลปินได้ดูแลรักษาคุณภาพ และมาตรฐาน ตลอดจนพัฒนาตัวเองกับการทำงานสม่ำเสมอ
โดยสาเหตุของการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงในครั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการเสพเพลงของคนฟังที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปตามการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งการปรับครั้งนี้อาจมีทั้งถูกใจ และไม่ถูกใจคนทำงาน ซึ่งมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่ส่วนใหญ่ศิลปินก็ตัดสินใจอยู่กับเราต่อไป เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์กร และทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มีจุดแข็งปรับวิธีคิดมองเพลงเป็นคอนเทนต์ต้นน้ำที่แข็งแกร่ง สามารถนำมาต่อยอดเพื่อหารายได้ในด้านอื่นๆ ได้อีกหลายทาง อาทิ การจัดเก็บลิขสิทธิ์, การบริหารจัดการศิลปิน, โชว์บิซ, อีเวนต์ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง
ผมเชื่อมั่นว่าหลายค่ายต้องปรับโมเดลการทำธุรกิจเช่นกัน ดังนั้น ยิ่งปรับเร็วยิ่งได้เปรียบ ยิ่งทำให้มีมูลค่าก็ไปต่อได้ เพราะเพลงอยู่ได้ยังมีคนฟังเพลงเยอะแยะ เพียงแต่ช่องทางฟังไม่ใช่อันเดิมแล้ว การทำงานทุกอย่างต้องมีการวิเคราะห์ เราต้องเปิดกว้างและมองสิ่งรอบตัวเป็นโอกาส อะไรที่มันดีอยู่แล้วเราก็ทำให้มันดียิ่งขึ้น อะไรที่ไม่ดีเราก็ต้องแก้ไขหรือตัดสินใจทิ้งมันไป อะไรที่ใหญ่แล้วได้เปรียบก็จะคงไว้ ทำให้ก้าวที่จะเดินต่อไปแข็งแกร่งยิ่งขึ้น " คุณเณร-ศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit