ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับภูมิภาค ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี เผยว่า "ผิวของคนเรานั้นจะมีน้ำในผิวระเหยออกตลอดเวลา ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น การคงความชุ่มชื่นในผิวยิ่งลดลง ทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณต่างๆ การให้ความสำคัญต่อการเติมความชุ่มชื่นให้ผิว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีส่วนผสมใหม่ๆ ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งในผิวของคนเรานั้นจะมีสารอุ้มน้ำที่มีในผิวตามธรรมชาติ เช่น ไฮยาลูโรนิคแอซิด ซึ่งผิวสามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นผิวจะสร้างได้ลดลง จึงมีการนำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยสารธรรมชาติจากภายนอก ซึ่งมีข้อจำกัดในการซึมผ่านผิว ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงพยายามศึกษาวิธีกระตุ้นเซลล์ผิว ให้กลับมาสร้างสารอุ้มน้ำในผิวได้ดีอีกครั้ง จนค้นพบว่ามียีน (Gene) ภายในเซลล์ผิว ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสั่งการเซลล์ผิวให้สร้างสารอุ้มน้ำ ไฮยาลูโรนิคแอซิด จึงเป็นจุดเริ่มของการหาวิธีส่งเสริมการสร้างสารให้ความชุ่มชื่นธรรมชาติจากภายในอย่างตรงจุด
ล่าสุด ได้มีการทดลองพบว่า สารสกัดจากแพลงก์ตอนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในท้องทะเล และสาหร่ายทะเสสีแดง สายพันธุ์เฉพาะ สามารถส่งเสริมให้เซลล์เพาะเลี้ยงในห้องปฎิบัติการสร้างสารไฮยาลูโรนิคแอซิดได้มากขึ้น จากการทำให้ยีนเพิ่มสัญญาณสั่งการเซลล์ จึงเสมือนเสริมความชุ่มชื่นผิวจากภายในตามธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยให้ยีนส่งสัญญาณสั่งการเซลล์ผิวให้สร้างโปรตีนที่ทำให้ชั้นผิวแข็งแรงเพิ่มขึ้นด้วย จึงเริ่มมีการนำสารสกัดเหล่านี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์เอสเซนส์ปลุกความชุ่มชื่นผิว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ และมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ "อาวียองซ์ แอกทิเวติง เอสเซนส์ (aviance Activating Essence)" ซึ่งจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากยุคแรกๆ ของการพัฒนาสารให้ความชุ่มชื่นผิว ที่จะเน้นสารกลุ่มน้ำมัน หรือไขมัน เช่น แว็กซ์ น้ำมันแร่ น้ำมันจากพืช รวมถึงน้ำมันสังเคราะห์ที่ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่เมื่อทาแล้วจะเคลือบปกป้อง ลดการระเหยของน้ำจากผิว แต่สารกลุ่มเดิมๆ เหล่านั้นมักทิ้งความมันเหนอะหนะ ไม่สบายผิว หรือบางชนิดยังมีกลิ่นเหม็นหืนง่ายด้วย"
แม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไม่หยุดยั้ง แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดีเยี่ยม ยังต้องควบคู่กับพฤติกรรมพื้นฐาน ที่ส่งเสริมสุขภาพผิวด้วย เช่น ดื่มน้ำและพักผ่อนเพียงพอ เลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิวต่างๆ เป็นต้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit