LDC ชูจุดเด่น มีเครือข่ายสาขาทันตกรรมมากที่สุด 31 สาขา กลยุทธ์ปี 60 ลุยสร้างแบรนด์ ยกระดับการบริการเพิ่ม

13 Dec 2016
LDC ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมรายใหญ่ ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศ ขยายอาณาจักรครบ 31 สาขาเรียบร้อยแล้ว ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด "หมอหนึ่ง" ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ แม่ทัพใหญ่ ชูกลยุทธ์ขยายตลาดทุกช่องทาง พร้อมยกระดับการให้บริการ หวังสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ และความพึงพอใจแก่ลูกค้าสูงสุด เชื่อ จะสนับสนุนการเติบโตของรายได้และพลิกกลับมาเป็นกำไรในอนาคต ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผลขาดทุน แต่เป็นช่วงของการเปิดสาขาใหม่พร้อมกันหลายสาขา อยากให้มอง LDC ระยะยาว จะเห็นมิติใหม่ของวงการทันตกรรมแน่นอน
LDC ชูจุดเด่น มีเครือข่ายสาขาทันตกรรมมากที่สุด 31 สาขา กลยุทธ์ปี 60 ลุยสร้างแบรนด์ ยกระดับการบริการเพิ่ม

"หมอหนึ่ง" ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางในนาม LDC Dental เปิดเผยถึง การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สนับสนุนให้ปัจจุบัน LDC Dental มีสาขารวมกันแล้วทั้งสิ้น 31 สาขา เพื่อให้บริการลูกค้าครอบคลุมทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด โดยกลยุทธ์ในช่วงต่อจากนี้ บริษัทฯ มีแผนยกระดับการให้บริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ LDC Dental ให้มากยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมการตลาดแบบสร้างสรรค์ และการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นการรับรู้และการให้ความสำคัญเรื่องของทันตกรรมมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดโครงการ Smile Boy & Girl เพื่อค้นหา "สุดยอดรอยยิ้ม" โดยเปิดโอกาสให้หนุ่ม สาว ที่มั่นใจในรอยยิ้ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมประกวดชิงรางวัล พร้อมทั้งเป็น Brand Ambassador ของ LDC Dental เจาะตลาดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นทั่วทุกภาค ซึ่งคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการต่อในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560 หลังจากเลื่อนมาจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การเปิดสาขาใหม่ในช่วงเริ่มต้น บริษัทฯ จะรับรู้รายได้ไม่เต็มที่นัก โดยมีอัตราการเข้าใช้บริการ หรือ Utilization ประมาณ 20 % เมื่อเทียบกับสาขาเก่าซึ่งมี Utilization ประมาณ 35% ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่น และการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จึงประเมินรายได้จากสาขาใหม่ของ LDC จะใช้เวลา 3-5 ปี จึงจะถึงจุดคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ยังคงมั่นใจว่า ในระยะยาว การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพทั่วประเทศนั้น จะเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ทำให้เกิด Economy of scale สนับสนุนการเติบโตของรายได้และกำไรได้อย่างแข็งแกร่งแน่นอน

"ที่ผ่านมา LDC มีสาขาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ณ สิ้นปี 2557 บริษัทฯ มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 21 สาขา ซึ่งปัจจุบัน LDC ได้ขยายสาขาจนครบตามเป้าหมาย 31 สาขาเรียบร้อยแล้ว เจาะตลาดลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น และไม่มีแผนจะลงทุนขยายสาขาเพิ่มในปีหน้า โดยจะโฟกัสไปที่กิจกรรมทางการตลาดอย่างสร้างสรรค์ในช่องทางต่างๆ การสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ และในขณะเดียวกัน เราก็จะมุ่งเน้นการให้บริการที่เหนือกว่าเดิม เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และพยายามขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก ทั้งลูกค้าชาวไทย และต่างชาติ ตั้งเป้า Utilization เฉลี่ยทั้งสาขาเก่าและสาขาใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30%" หมอหนึ่ง กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 262.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.71 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้ทุกประเภท โดยเฉพาะรายได้ค่ารักษาทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของสาขาเดิม ขณะที่สาขาใหม่ที่ทยอยเปิดในช่วงที่ผ่านมา มีการเติบโตของรายได้ยังไม่มากนัก ขณะที่ บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 57.26 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องจากการเปิดสาขาใหม่ เช่น ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ค่าเช่าของแต่ละสาขา ค่าตอบแทนทันตแพทย์ เงินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานจากการเปิดสาขาใหม่ที่ต่าง จังหวัด นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์และ การรับรู้ในวงกว้าง ประกอบกับรายได้ค่าบริการสาขาต่างจังหวัดยังมีไม่มาก เนื่องจากเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการ จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ขาดทุน

หมอหนึ่ง กล่าวปิดท้ายว่า LDC กำลังเร่งสร้างความแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไร โดยที่ผ่านมา หากดูเฉพาะสาขาเก่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและมีกำไร ขณะที่สาขาใหม่ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงมั่นใจเป้าหมายปี 2560 ผลักดันรายได้ให้เติบโตขึ้นตามแผนเดิมที่วางไว้