ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้สนใจทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำรายการสูงถึงครั้งละกว่า 90,000 ราย ในขณะที่มีผู้ทำรายการได้ครั้งละ 67,000 ราย มีผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสลากได้ประมาณ 23,000 ราย คิดเป็นจำนวนสลากประมาณ 120,000 เล่มคู่ ในขณะเดียวกัน ในจำนวนผู้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้า ยังมีผู้ประสงค์จะรับสลากไปจำหน่ายมากกว่า 5 เล่มอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้น คาดว่าน่าจะยังมีความต้องการสลากอยู่อีกประมาณ 150,000 – 160,000 เล่มคู่ โดยการทำรายการแต่ละครั้ง ใช้เวลาเพียง6-7 นาที และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีเหตุการณ์วิวาทเพื่อแย่งกันทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้า ฯ บริเวณตู้เอทีเอ็ม ที่ อ.เชียงคาน จังหวัดเลย ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความต้องการสลากในส่วนของผู้ขาย ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับขณะนี้ ใกล้ช่วงปีใหม่และตรุษจีน ซึ่งช่วงนี้ของทุกปี สลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากเป็นที่นิยมเสี่ยงโชคและให้เป็นของขวัญ อีกทั้งยังมีการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีการลักลอบนำสลากไปจำหน่ายต่อในราคาสูงอีกด้วย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงได้พิมพ์สลากเพิ่มอีก 5,000,000 ฉบับ ในงวดวันที่ 30 ธันวาคม 2559 และพิมพ์สลากเพิ่มอีก 8,000,000 ฉบับ ในงวดวันที่ 17 มกราคม 2560 โดยเพิ่มในโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า ฯ ทำให้งวดวันที่ 30 ธันวาคม 2559 มีสลากในตลาด 65 ล้านฉบับคู่ และในงวดวันที่ 17 มกราคม 2560 มีสลากในตลาด 68 ล้านฉบับคู่ และจะยังคงงวดละ 68 ล้านฉบับคู่ไปจนถึงงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560
โฆษกคณะกรรมการสลากสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า ในงวด 16 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานฯ จะพิมพ์สลากเพิ่มอีก 3 ล้านฉบับคู่ จาก 68 ล้านฉบับคู่ รวมเป็น 71 ล้านฉบับ โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านฉบับคู่ จะจัดสรรให้กับองค์กร สมาคม มูลนิธิคนพิการ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างผู้จำหน่ายรายย่อย กับสมาคม องค์กรและมูลนิธิ เนื่องจากปัจจุบัน สลากกว่า 85% ตกอยู่ในกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีการกระจายตัวในการจำหน่าย ทำให้การควบคุมต้องดำเนินการในวงกว้าง ในขณะที่ การจัดสรรสลากส่วนที่เพิ่มให้กับสมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ จะช่วยปรับสมดุลและช่วยในเรื่องการควบคุมผู้จำหน่ายได้แน่นแฟ้น ประกอบกับ ขณะนี้ สมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นและยังขาดโอกาสในการเข้าถึงการดูแล นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐมีส่วนในการช่วยดูแลสงเคราะห์องค์กรภาคสังคม สมาคมและมูลนิธิรวมถึงผู้ด้อยโอกาสอีกด้วย
พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานฯ ยังคงยังคงความเข้มข้นและความต่อเนื่องในการลงพื้นที่กวดขันการจำหน่ายสลากตามราคาและจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาทั่วประเทศ โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 จนถึงขณะนี้(ธันวาคม 2559) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ได้จับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาและดำเนินคดีอาญาแล้ว 986 ราย ยกเลิกสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย 152 ราย และยกเลิกสิทธิการลงทะเบียนโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ แล้ว 154 ราย นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้ตรวจการของสำนักงานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายผลการบันทึกภาพและบันทึกหมายเลขสลากในเขตปริมณฑลในช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบสลากที่นำมารวมชุดรวมทั้งสิ้น 667 ชุด 3,277 ฉบับคู่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นสลากชุด 5 ฉบับคู่ สลากเหล่านี้ จะถูกนำไปตรวจสอบว่าใครเป็นผู้นำมาจำหน่าย หากตรวจพบว่าเป็นสลากของผู้ใด จะตัดโควตาทันที สำหรับการการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งมีอายุสัญญาตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2559 – 1 มิถุนายน 2560 นั้น มีตัวแทนจำหน่ายส่วนกลางที่ไม่มาทำสัญญาเกือบ 300 ราย คิดเป็นจำนวนสลากเกือบ 1,500 เล่มคู่ ซึ่งสลากจำนวนนี้ ได้นำไปเข้าสู่โครงการซื้อ-จองล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ประสงค์จะรับสลากไปจำหน่ายเข้าถึงสลากได้มากขึ้น และในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่มาทำสัญญารอบนี้ สำนักงานฯ ได้ประสานจัดส่งหมายเลขบัตรประชาชนของตัวแทนจำหน่ายรายย่อยบุคคลทั่วไป ทั้งหมด จำนวน 31,934 ราย ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของตัวแทนจำหน่ายรายย่อยบุคคลทั่วไป ว่าขาดคุณสมบัติเนื่องจากเป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของส่วนราชการหรือไม่ โดยจัดทำข้อมูลในรูปแบบไฟล์บันทึกลงแผ่น CD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหากพบว่าตัวแทนรายย่อยรายใดขาดคุณสมบัติดังกล่าว จะยกเลิกสัญญาทันทีเช่นกัน
พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ กล่าวถึงการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ รอบต่อไปว่า จะเปิดให้ทำรายการสลากซื้องวดวันที่ 17 มกราคม 2560 ในวันที่ 5 มกราคม 2560 จำนวนสลากประมาณ 165,000 เล่มคู่ และเปิดให้ทำรายการสลากจองงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 จำนวน 2 วัน คือ ในวันที่ 6 มกราคม 2560 จำนวนสลาก 180,000 เล่มคู่ และวันที่ 7 มกราคม 2560 จำนวนสลาก 80,000 เล่มคู่ และยังได้กล่าวถึงการมอบหมายให้ ผู้ตรวจการของสำนักงาน ฯ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและตรวจสอบการจำหน่ายสลากของผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดกรองผู้จำหน่ายสลากที่แท้จริง หลังจากในรอบปีที่ผ่านมา สำนักงานฯ ได้ขอความร่วมมือหน่วยทหารและจังหวัด ในการตรวจสอบผู้จำหน่ายทั่วประเทศ โดยการจัดเก็บข้อมูลในครั้งนี้ จะนำไปวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาในอนาคต
พันโทหนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และประธานคณะทำงานบริหารจัดการสลาก กล่าวต่อผู้สื่อข่าวถึงทิศทางที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไปว่า ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ สำนักงาน ฯ
เตรียมจัดสัมมนาทางวิชาการ เกี่ยวกับการดูแลคนพิการ ว่าควรจะเป็นการจัดสรรสลากให้จำหน่ายหรือดูแลด้วยการบริหารจัดการเงินส่วนลดผ่านองค์กรที่ดูแลคนพิการไปบริหารจัดการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและทั่วถึง โดยเชิญตัวแทนภาคประชาชน นักวิชาการและตัวแทนสมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากเพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนา ไว้ประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป และหลังจากนี้ คณะกรรมการสลาก ผู้บริหารระดับสูง และตัวแทนภาคประชาชน จะลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มลงพื้นที่ปลายเดือนมกราคม 2560 อย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคของประเทศด้วย