มหกรรมเรือสำราญมารีน่า "ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 2" ณ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ภูเก็ต ปิดฉากอย่างเป็นทางการในคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จอันงดงามของคณะผู้จัดงานที่สามารถนำเสนอเรือซูเปอร์ยอชท์ชั้นนำ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการระดับลักชัวรี่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทำให้เมืองไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะศูนย์กลางธุรกิจมารีน่าระดับหรูแห่งเอเชีย
มหกรรมไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ผ่านมา คับคั่งด้วยผู้ประกอบการกว่า 60 ราย ที่จัดแสดงเรือสุดหรูมากกว่า 55 ลำ ซึ่งเป็นเรือซูปยอชท์ถึง 18 ลำ สำหรับงานในปีนี้ยังได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานภาครัฐบาล ซึ่งถือเป็นสัญญาที่ดีของการพัฒนาศักยภาพ ในการจัดงานครั้งต่อไป
มร. แอนดี้ เทรดเวลล์ กรรมการผู้จัดการ ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ กล่าวถึงเป้าหมายของการจัดงานครั้งนี้ว่า "ผมต้องการผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นมหานครแห่งเรือยอชท์และเรือใบแห่งเอเชีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาวของกลุ่มเจ้าของเรือซูเปอร์ยอชท์ระดับโลก ซึ่งการนำเรือหรูจัดแสดงในเมืองไทยครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจากยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการสร้างงานในท้องถิ่น สร้างการประชาสัมพันธ์ประเทศ ตลอดจนดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศ"
ด้านพันธมิตรหลักการจัดงาน นำโดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต่างพึงพอใจในการจัดงานมหกรรมเรือสำราญครั้งนี้ พร้อมร่วมให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะสนับสนุนการจัดกิจกรรม เพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลแห่งเอเชียในอนาคต
ผู้เข้าชมงานต่างได้ตื่นตาตื่นใจไปกับกิจกรรมสุดประทับใจตลอด 4 วันเต็ม โดยภายในงานมีทั้งการจัดแสดงเรือยอชท์และ ซูปเปอร์ยอชท์สุดหรูเทียบท่า ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า และกิจกรรมการล่องทะเลสู่อ่าวพังงาเพื่อชมทัศยีภาพอันงดงามเหนือท้องทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยังสนุกกับเครื่องเล่นทางทะเลสุดเอ็กซ์ตรีม บน Demo Platform ซึ่งมีตั้งแต่การแข่งเรือ Dragon Boat Racing การแข่งเรือใบ และเพลิดเพลินไปกับการแล่นเรือใบเล็กไปจนถึงแพดเดิลบอร์ด
สำหรับบริเวณริมหาดมีการจัดแสดงสินค้าแนวไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ ตลอดจนการจัดแสดงสินค้าและบริการจากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของภูเก็ต และบริษัทธุรกิจผู้ชื่อดัง จากทั่วทุกภูมิภาค ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ยังถือเป็นแหล่งรวมงานสังสรรค์ระดับวีไอพี ทั้งปาร์ตี้เปิดงาน Rock D' Deck TYS Welcome Party ซึ่งจัดโดยบริษัท Sevenstar Yacht Transport ไปจนถึงปาร์ตี้ปิดงานซึ่งจัดขึ้นอย่างสนุกสนานยิ่งใหญ่บนเรือ HYPE ส่วนบริษัท Titan Brokers ยังจัดปาร์ตี้บนเรือยอชท์ Lauren L ขนาด 90 เมตรแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้า และเรือยอชท์ชื่อดังอย่าง Ocean Emerald จัดกิจกรรมล่องเรือชมทะเลรอบพิเศษและปาร์ตี้สุดหรูบนดาดฟ้าเรือขนาด 41 เมตรได้อย่างตระการตา นอกจากนี้ บริษัทนายหน้าระดับโลกอย่าง Burgess โชว์ศักยภาพของบริษัทด้วยการจัดงานสังสรรค์ยามราตรีแบบลักชั่วรี่บนเรือ Northern Sun ขนาด 50 เมตรสำหรับลูกค้าวีไอพีโดยเฉพาะ และบริษัทที่จัดแสดงเรือมากที่สุดในงานครั้งนี้อย่าง Lee Marine ยังนำเสนองานเลี้ยงครั้ง
สำคัญสำหรับลูกค้าและหุ้นส่วนของบริษัท รวมถึงงานเลี้ยงของบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย จึงถือได้ว่างานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งนี้เป็นศูนย์รวมของการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระดับสูงที่แท้จริง ซึ่งผู้มาร่วมงานต่างได้สร้างสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของสุดยอดเรือยอชท์ พร้อมการต้อนรับที่ดีเยี่ยม ภายใต้บรรยากาศของมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าครั้งยิ่งใหญ่แห่งเอเชียตลอด 4 วัน
ผู้จัดแสดงสินค้าภายในงานต่างมีโอกาสได้พบปะกับลูกค้าระดับสูงมากมาย "คุณต้องดึงตัวลูกค้าคนสำคัญให้เข้ามาชมงานของคุณให้ได้" เดลล่า รูดจี้ ตัวแทนอาวุโส บริษัท Hong She ซึ่งมีฐานในสิงคโปร์ กล่าว "เราสัมผัสได้ว่า งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ คือการต่อยอดความสำเร็จของงานสิงคโปร์ ยอชท์ โชว์ ซึ่งถือว่าการจัดงานที่นี่มีความเหมาะสมอย่างมาก"
"ประเทศไทยต้องทำให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงศักยภาพ" รอน แพตสตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Gulf Charters ซึ่งมีสำนักงานที่หาดจอมเทียน พัทยาในประเทศไทย กล่าว "งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ และ ไทยแลนด์ ยอชทติ้ง ฟอรั่ม ทำให้จุดประสงค์ดังกล่าวสำเร็จลงได้อย่างงดงาม ซึ่งไม่เพียงเฉพาะภูเก็ตเท่านั้น หากหมู่เกาะรอบๆ เกาะช้างยังถือเป็นแหล่งล่องเรือสำราญที่ดีที่สุดของโลกเช่นกัน ซึ่งเรามาเป็นส่วนหนึ่งของงานเพื่อประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้ เพราะไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ถือเป็นมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าครั้งสำคัญที่พลาดไม่ได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี"
"เรามาร่วมงานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ เพื่อพบปะ สร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์กับผู้คนในอุตสาหกรรมนี้" แมรีค เดิร์ก บริษัท Sevenstar Yacht Transport กล่าว "ประเทศไทยถือเป็นตลาดเรือยอชท์ที่กำลังเติบโต และเรามาเพื่อสร้างโอกาสจากการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่และพูดคุยกับผู้จัดแสดงสินค้ารายอื่นๆ"
"เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทยเติบโตขึ้น ย่อมต้องมีโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานมารองรับ" แมทธิว นา นางาระ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Port Takola Marina ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2560 กล่าว "เรามาเพื่อกระจายข่าวสารและนำเสนอบริษัทแก่ผู้คนในงานนี้" นอกจานี้ บริษัท LuxBerths ผู้ให้บริการระบบจองตั๋วโดยสารเรือสำราญออนไลน์ ยังเลื่อนกำหนดการเปิดให้บริการให้ตรงกับงานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ "นี่คือมหกรรมที่รวบรวมเรือชั้นยอด" เจมส์ วิกเคนส์ กรรมการผู้จัดการ กล่าว "เราจึงเลือกงานนี้เป็นสถานที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราสู่สายตาชาวโลก"
นอกเหนือจากผู้แทนจำหน่ายและนายหน้าชั้นนำ งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ยังดึงดูดผู้ผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนชั้นแนวหน้ามากมาย อย่างSunbrella ผู้ผลิตสิ่งทอระดับโลกสำหรับใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงอุปกรณ์สำหรับเรือซูเปอร์ยอชท์และดาดฟ้าเรือ ก็ได้มาร่วมจัดแสดงสินค้าในงานครั้งนี้ รวมถึง Galileo Maritime Academy ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่มีศักยภาพสูงและมีแนวโน้มจะกลายเป็นสถาบันทางทะเลอันดับหนึ่งของโลกในอนาคต"
การจัดงานไทยแลนด์ ยอชทติ้ง ฟอรั่ม และ ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ พร้อมกันยังทำให้งานครั้งนี้ทวีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยความร่วมมือในด้านองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญจากกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลไทย สมาคมธุรกิจทางน้ำไทย และทีมงานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ จึงทำให้งานประสบความสำเร็จลงอย่างงดงาม
งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 3 กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 14 – 17 ธันวาคม 2560 นำเสนอโดยผู้จัดงานสิงคโปร์ ยอชท์ โชว์ ซึ่งทั้งสองงานถือเป็นกิจกรรมครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมมารีน่าระดับภูมิภาค ในขณะที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางธุรกิจหลักของเอเชียซึ่งเต็มไปด้วยนักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากทั่วภูมิภาค ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านธุรกิจเรือยอชท์ที่ใหญ่และดีเยี่ยมที่สุด ด้วยจุดแข็งด้านบริการต้อนรับของโรงแรมที่พักชั้นเลิศและภูมิประเทศที่สวยงามโดดเด่นเหมาะสมกับการล่องเรือ ซึ่งทำให้มีเจ้าของเรือยอชท์และเรือใบเดินทางมาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี