ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคมที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้หลายแห่ง ได้แก่ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือมิวเซียมสยาม นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์เหรียญ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ท้องฟ้าจำลอง จตุรัสวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ สวนสัตว์ดุสิต พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ (อาร์ทอินพาราไดซ์) พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แหล่งเรียนรู้ 3 ศิลป์รัตนโกสินทร์และพิพิธภัณฑ์อาคารสุทธานภดม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา กรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระจายสู่ต่างจังหวัดอีก 2 แห่งคือ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดนครราชสีมา และฉะเชิงเทรา พร้อมใจกันขยายเวลาให้ประชาชนเข้าชมจนถึงเวลา 22.00 น.
เหตุผลที่พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั่วกรุงร่วมมือร่วมพลังกันร่วมโครงการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืน เนื่องจากโครงการดังกล่าวนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมนำร่องของคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งความรู้ โดยต้องการจะบูรณาการแนวทางการดำเนินงานและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของประเทศ แต่สำหรับปีนี้นับเป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงจัด Night at the Museum "ในรัชกาลที่ ๙" ขึ้น โดยมุ่งหวังจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ และต้องการส่งสารไปถึงคนไทย โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน หวังจะให้เป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ยึดมั่นในคุณงามความดี และดำรงตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติต่อไป
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานความดี เดินหน้าพัฒนาประเทศให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้จัดโครงการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืน โดยความร่วมมือของกลุ่มพิพิธภัณฑ์ภายในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ 7 หน่วยงาน และกลุ่มที่จัดงานบริเวณภายนอกพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ 9 หน่วยงาน และหน่วยงานร่วมสนับสนุน 3 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 19 หน่วยงาน
"ทุกหน่วยงานต่างนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติต่อเนื่องในหลากหลายด้านตามแต่ละหน่วยงานมีความถนัดและเชี่ยวชาญ ทั้งด้านการเกษตรและการยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านการทหาร รวมทั้งพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ทั้งศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และเรื่องราวความประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และการจัดแสดงสิ่งของที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีในวโรกาสพิเศษต่างๆ ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับพสกนิกรไทยทุกคน ซึ่งไม่เพียงจะเข้ามาชื่นชมและสำนักในพระมหากรุณาธิคุณเท่านั้น แต่ทุกนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่างๆสามารถกระตุ้นแรงบันดาลใจและกระตุกต่อมคิดให้ทุกคนทำดีสร้างประโยชน์ตามรอยพระองค์ท่านต่อไป"
บรรยากาศภายในพื้นที่จัดงาน Night at the Museum ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติฯรวมกว่า 28 นิทรรศการ และกิจกรรมพิเศษต่างๆรวม 24 กิจกรรม เช่น การเสวนา การฉายภาพยนตร์ การจัด workshop แต่อาจแตกต่างกันไปตามแนวคิดของแหล่งความรู้และพิพิธภัณฑ์นั้นๆ อาทิ มิวเซียมสยาม จัดส่วนนิทรรศการและวิดีทัศน์บอกเล่าความรู้สึกของพสกนิกรที่มีต่อพระองค์ท่านจนก่อเกิดเป็นความสุข สำเร็จ และเจริญ โดดเด่นที่ส่วนจัดแสดงของที่ระลึกและเรื่องราวต่างๆที่หาชมได้ยาก และยังมีโซนบอกรักถึง...ในหลวง จัดภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ วงดนตรีบรรเลงและขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นต้น ส่วนนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ได้นำเสนอนิทรรศการสืบสาน สมานมิตร เทิดพระเกียรติในด้านการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ หรือหากเข้าไปที่สวนสัตว์ดุสิต ก็จะได้นั่งรถพ่วงชมชีวิตสัตว์ในยามค่ำคืน ชมโรงช้างต้นที่คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกเชือกแรกในรัชกาลที่ 9 และลิงแสมทรงเลี้ยง และยังมีแหล่งเรียนรู้อีกมากมายที่ต่างขนทัพความรู้และกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระราชกรณียกิจและคุณูปการของพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หาโอกาสเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในช่วงเวลาค่ำคืนว่ายากแล้ว แต่การได้เข้ามาชื่มชมพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในหลากหลายแง่มุมนั้นยากยิ่งกว่า และเมื่อได้มีโอกาสที่ได้ชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมพิเศษยามค่ำคืนพร้อมกันด้วยเช่นนี้ ยิ่งสร้างความประทับใจและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจได้ไม่รู้จบจริงๆ
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit